ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ประชาชนหลากชาติพันธุ์ในพม่าจับมือค้าน “เขื่อนสาละวิน” ที่ ก.พลังงานของไทย ไปจับมือกับกรมไฟฟ้าพลังน้ำฝ่ายหม่อง โดยการลงทุนจะเป็นหน้าที่ของ “กฟผ.” กับบริษัทจากจีน ชี้ทำลายสันติภาพ หวั่นสงครามกลางเมืองระลอกใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมคณะทำงานชุมชน COMREG กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า เครือข่ายปกป้องแม่น้ำสาละวิน (Save the Salween Network) พร้อมองค์กรภาคประชาสังคมในพม่ารวม 110 องค์กร ได้จัดงานแถลงข่าวแสดงจุดยืนอนุรักษ์แม่น้ำสาละวิน และคัดค้านโครงการก่อสร้างเขื่อน
นายซอ ต่าโพ ผู้ประสานงานกลุ่มปกป้องแม่น้ำกะเหรี่ยง Karen Rivers Watch กล่าว่า แม่น้ำสาละวิน หรือที่เรียกในภาษาพม่าว่า ตานวิน เป็นแม่น้ำสายยาวสุดอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นแม่น้ำที่ทรงคุณค่าต่อการอยู่รอดของชนชาติพันธุ์ ไม่เพียงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ หากยังรวมถึงการเป็นสายเลือดหล่อเลี้ยงชีวิตความหลากหลายทางธรรมชาติในภูมิภาค
“เราเชื่ออย่างยิ่งว่า ความร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นของรัฐบาลพม่า และบริษัทต่างชาติ เพื่อผลักดันโครงการเขื่อนสาละวิน หรือเขื่อนตานวิน และการเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่โดยไม่มีเหตุผลอันชอบธรรม จะนำไปสู่การขัดกันด้วยอาวุธร้ายแรงส่งผลคุกคามต่อความยั่งยืนของสันติภาพ อันเป็นที่ปรารถนาของชนชาติพันธุ์ และอาจปะทุเป็นสงครามกลางเมือง”
ผู้ประสานงานกลุ่มปกป้องแม่น้ำกะเหรี่ยงยังกล่าวอีกว่า โครงการเขื่อนสาละวินไม่เพียงจะทำลายชีวิตความเป็นอยู่ของชนชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งน้ำ หากยังคุกคามต่อความอยู่รอดของชนชาติพันธุ์ ซึ่งบางกลุ่มมีประชากรเหลืออยู่น้อยมาก เช่น ชาวยินตาเล เป็นต้น
นายออง นาย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากรัฐมอญ กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่าแผนการส่งออกไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนสาละวิน ไม่ได้เป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในประเทศพม่า นอกจากนี้ แผนการผันน้ำของแม่น้ำสาละวินไปยังภูมิภาคอื่น (รวมทั้งประเทศไทย) เป็นเรื่องที่ขาดความยุติธรรมด้านสิ่งแวดล้อม
“แม่น้ำสาละวินในฐานะเป็นแม่น้ำสากลที่ไหลผ่านประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกันทั้งจีน พม่า และไทย หากไม่มีความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง การดำเนินโครงการใดๆ อย่างเช่น โครงการเขื่อนสาละวินอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เราจึงต่อต้านอย่างเต็มที่ต่อการสร้างเขื่อนในแม่น้ำสาละวิน และเรียกร้องให้ร่วมมือกันเพื่อรักษาให้แม่น้ำไหลอย่างเป็นอิสระ” ส.ส.ชาวมอญกล่าว
การจัดแถลงข่าวครั้งนี้มีผู้สื่อข่าวพม่าให้ความสนใจเข้าทำข่าวกันอย่างคึกคักกว่า 35 คน จากสื่อทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และเว็บไซต์ โดยก่อนหน้านี้ ประเด็นเกี่ยวกับแม่น้ำสาละวินยังไม้ได้อยู่ในความสนใจของชาวพม่าในย่างกุ้งมากเท่ากับแม่น้ำอิรวดี เนื่องจากเป็นแม่น้ำที่ไหลบริเวณชายแดน และเป็นพื้นที่ในรัฐชาติพันธุ์อาทิ รัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยง และรัฐมอญ
แผนการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนบนแม่น้ำสาละวิน มีความคืบหน้าในช่วงกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อกระทรวงพลังงานไทย และกรมไฟฟ้าพลังน้ำของพม่า ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงในการพัฒนาพลังงานร่วมกัน แผนการก่อสร้างเขื่อนสาละวินที่คืบหน้ามากที่สุดในขณะนี้คือ โครงการเขื่อนเมืองโต๋น (หรือเขื่อนท่าซาง) ในรัฐฉาน 7,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะลงทุนโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัทจากจีน