ตรัง - แม่ค้าลูกชิ้นทอดบุกขอพึ่งศูนย์ดำรงธรรมเคลียร์ปัญหาหนี้นอกระบบ 4,200 บาท เผยคิดอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 ยันจ่ายทั้งต้น และดอกครบไป 2 ปีแล้ว แต่เจ้าหนี้เพิ่งคิดจะตามทวง เมื่อไม่ได้ก็หยิบลูกชิ้นไปทีละ 200 บาท 2 หน สุดท้ายลงเอยกันได้หลังมอบให้อีก 3,800 บาท เรื่องจึงจบ
ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (3 ก.ค.) น.ส.นิตยา เอียดทวน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ถ.เวียนกะพัง ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง อ.เมือง จ.ตรัง ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่พร้อมนำเงินสด 3,800 บาทมาด้วย เพื่อขอให้ช่วยไกล่เกลี่ย และเป็นพยายานการจ่ายหนี้ก้อนสุดท้ายให้แก่เจ้าหนี้ตามสัญญากู้ยืมที่เคยทำกันไว้เมื่อปลายปี 2553 จำนวน 4,200 บาท
น.ส.นิตยายืนยันว่า ตนได้กู้เงินในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 และผ่อนจ่ายให้วันละ 100 บาท แก่เจ้าหนี้ไปจนครบแล้วเมื่อประมาณ 2 ปี หลังกู้ยืมเงินไป แต่ด้วยความที่ตนเองไว้วางใจเพราะนับถือกัน และมีบ้านพักอาศัยอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร โดยในวันที่จ่ายเงินงวดสุดท้ายก็ไม่ได้ตามทวงสัญญาที่ทำกันไว้เพื่อนำมาทำลาย พร้อมกับได้มอบหลักฐานที่ตนเองจดไว้เกี่ยวกับการคืนเงินแต่ละวันให้แก่เจ้าหนี้ หลังจากนั้นตนก็ทำมาหากินตามปกติและไม่ได้ติดใจสงสัย
กระทั่งล่าสุด เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 ปีเศษ เจ้าหนี้คนดังกล่าวพร้อมลูกชายได้เดินทางไปยังรถเข็นขายลูกชิ้นทอดของตนเอง และทวงเงินอีก แต่ตนยืนยันว่าจ่ายให้ไปครบแล้ว เจ้าหนี้คนดังกล่าวจึงหยิบลูกชิ้นจากร้านของตนไป 20 ไม้ๆ ละ 10 บาท รวมเป็นเงิน 200 บาท และได้กระทำพฤติกรรมดังกล่าวมารวมแล้ว 2 ครั้ง ตนจึงเห็นว่าหากปล่อยไว้เกรงจะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา จึงได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจังหวัดตรังดังกล่าว
ต่อมา นางราตรี วัดโคก และนายปริญญา วัดโคก เจ้าหนี้รายดังกล่าวได้เดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอดูเอกสารการกู้ยืมเงินพบว่า เป็นหนังสือสัญญากู้ยืมเงินทั่วไป จำนวน 4,200 บาท โดยเขียนด้วยดินสอ แต่ไม่มีการเขียนกำกับเป็นตัวอักษร และให้ น.ส.นิตยา ลูกหนี้ลงลายมือชื่อไว้เท่านั้น โดยนางราตรี ยืนยันว่าลูกหนี้ยังค้างจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวอยู่จริง แต่สาเหตุที่ไม่เก็บหนี้ และไม่ได้ทวงมาเป็นเวลาถึง 2 ปี เนื่องจากต้องการให้โอกาสลูกหนี้
หลังจากนั้น น.ส.นิตยา ลูกหนี้จึงนำเงินที่เตรียมมา จำนวน 3,800 บาท ซึ่งได้หักจากค่าลูกชิ้น จำนวน 400 บาท มอบให้แก่นางราตรี ต่อหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวยุติลง ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้านไปด้วยความเรียบร้อย