สุราษฎร์ธานี - ตำรวจสุราษฎร์ฯ นำตัวผู้ต้องหาฆ่าอัยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านพักจุดเกิดเหตุ ปิดคดีฆาตกรรมสำเร็จ เตรียมนำตัวฝากขังผัดแรกพรุ่งนี้ รับกระหน่ำตีผู้ตายจนหมดสติ ก่อนหลบหนีออกจากบ้านพัก
สำหรับความคืบหน้าคดีฆาตกรรม นายพยงค์ ดอกไม้หอม อายุ 54 ปี อัยการจังหวัด ประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องหาในคดีนี้ คือ นายนิวัฒน์ อยู่สุข คนใกล้ชิดนายพยงค์ ได้ติดต่อผ่านญาติให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจากอำเภอตะกั่วป่าเดินทางไปรับตัวจากจังหวัดลพบุรี และนำส่งมอบให้แก่ทางตำรวจภูธรภาค 8 เมื่อวานนี้
ล่าสุด วันนี้ (1 ก.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากกระพุ้งแก้ม และในช่องปากของผู้ต้องหาเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของคนร้ายที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ ที่กองพิสูจน์หลักฐาน 10 จ.สงขลา พร้อมนำผลดีเอ็นเอที่ส่งไปตรวจก่อนหน้าหน้านี้มาประกอบเป็นพยานหลักฐานให้รัดกุมดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา
พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ภู่พันธ์ศรี ผกก.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สำหรับสำนวนการสอบสวนทางทีมพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา และเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่จากกองปราบได้สอนสวนผู้ต้องหาต่อ โดยผู้ต้องหาไม่ได้มีท่าทีที่เคร่งเครียด หรือวิตกแต่อย่างใด ให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม หลัวจากสอบปากคำเสร็จสิ้น เวลา 11.20 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.วิศณุ ม่วงแพร่ศรี รองผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเกียรติ แก้วมุก รองผู้บังคับการ พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก. พ.ต.อ.วิสุทธิ ภู่พันธ์ศรี ผกก.สภ.เมือง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย นำตัว นายนิวัฒน์ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดที่เกิดเหตุ เริ่มจากนายพยงค์ และนายนิวัฒน์ เดินทางกลับเข้าบ้านพักหลังจากที่ออกไปทำธุระที่ข้างนอก โดยผู้ต้องหาระบุว่า ในวันเกิดเหตุตัวเอง และผู้ตายกลับมาจากการไปทำธุระนอกเมือง โดยใช้รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเซเว่น หมายเลขทะเบียน กฉ 9349 สุราษฎร์ธานี กลับเข้าบ้านพักดังกล่าว จากนั้นนั้นใช้กุญแจเปิดประตูบ้านนำรถเข้าบ้าน และเอาเงาะลงจากรถไปวางที่โต๊ะรับแขก โดยผู้ต้องหาเดินเข้าไปในครัว ส่วนผู้ตายได้ขึ้นนอนพักดูทีวีอยู่ภายในห้องนอน
หลังจากนั้น ก็ได้เข้าไปในครัวเพื่อจัดอาหาร และนำขึ้นไปรับประทานที่ห้องนอน ขณะที่กำลังนั่งรับประทานอาหารด้วยกันก็มีโทรศัพท์เข้า ตนจึงลุกขึ้นเดินไปหญิบโทรศัพท์มาดู พบว่า เป็นแฟนคนใหม่ของผู้ตายโทร.เข้ามา จึงได้สอบถามผู้ตายแต่ผู้ตายไม่ยอมรับ จึงมีปากเสียงกัน หลังจากนั้น ผู้ตายได้เดินออกไปจากห้องไปประมาณ 5 นาที และกลับเข้าพร้อมด้วยท่อนไม้ พร้อมพูดขึ้นว่า “มึงจะเอายังไงกับกู วันนี้ต้องพูดกันให้รู้เรื่อง” จนมีปากเสียงอย่างรุนแรง ผู้ตายได้ใช้ท่อนไม้ตีใส่ตน ตนจึงยกพัดลมขึ้นมารับ และต่อสู้กันจนชุลมุนวุ่นวายข้าวของแตกกระจาย ตนแย่งไม้มาได้ และตีเข้าไปที่ผู้ตายไม่ยั้งจนไม้หัก ผู้ตายที่ได้รับบาดเจ็บก็พยายามที่จะหนีออกจากห้องแต่ ตนได้ใช้พัดลมตามไปตีที่หน้าประตู จนผู้ตายต้องหนีกลับมาที่เตียงนอน ด้วยความขาดสติจึงได้ตามมาตีด้วยขาตั้งพัดลม จนผู้ตายล้มลงบนที่นอน หลังจากนั้นได้กระหน่ำตีซ้ำจนผู้ตายแน่นิ่งไป
จากนั้นตนก็ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อที่เปื้อนเลือดออกนำใส่ถุงดำ แล้วออกจากบ้านพัก ไปโบกรถตุ๊กตุ๊กที่บริเวณถนนดอนนก ปากทางเข้าหมู่บ้าน ให้ไปส่งที่ตลาดเกษตร 2 เมื่อถึงตลาดได้ขึ้นรถตู้โดยสารประจำทางกลับบ้านที่ตะกั่วป่า จ.พังงา แล้วนำถุงดำที่ใส่เสื้อผ้าเปื้อนเลือดไปทิ้งที่ป้าละเมาะข้างบ้าน จากนั้นขึ้นรถทัวร์หลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ต่อรถไปหาเพื่อนที่ลพบุรี และติดตามข่าวสารทางสื่อ ก่อนตัดสินใจติดต่อขอมอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งบรรยากาศการทำแผนผ่านไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีมีเพื่อนบ้านในหมู่บ้านอัยการ รวมทั้งญาติผู้ตายติดตามดูการทำแผนอย่างสงบ ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมงเศษจึงเสร็จสิ้น และในเช้าวันพรุ่งนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะนำตัว นายนิวัฒน์ จงสุข ผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายนิวัฒน์ ได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา
สำหรับความคืบหน้าคดีฆาตกรรม นายพยงค์ ดอกไม้หอม อายุ 54 ปี อัยการจังหวัด ประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องหาในคดีนี้ คือ นายนิวัฒน์ อยู่สุข คนใกล้ชิดนายพยงค์ ได้ติดต่อผ่านญาติให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจากอำเภอตะกั่วป่าเดินทางไปรับตัวจากจังหวัดลพบุรี และนำส่งมอบให้แก่ทางตำรวจภูธรภาค 8 เมื่อวานนี้
ล่าสุด วันนี้ (1 ก.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากกระพุ้งแก้ม และในช่องปากของผู้ต้องหาเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของคนร้ายที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ ที่กองพิสูจน์หลักฐาน 10 จ.สงขลา พร้อมนำผลดีเอ็นเอที่ส่งไปตรวจก่อนหน้าหน้านี้มาประกอบเป็นพยานหลักฐานให้รัดกุมดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา
พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ภู่พันธ์ศรี ผกก.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สำหรับสำนวนการสอบสวนทางทีมพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา และเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่จากกองปราบได้สอนสวนผู้ต้องหาต่อ โดยผู้ต้องหาไม่ได้มีท่าทีที่เคร่งเครียด หรือวิตกแต่อย่างใด ให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม หลัวจากสอบปากคำเสร็จสิ้น เวลา 11.20 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.วิศณุ ม่วงแพร่ศรี รองผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเกียรติ แก้วมุก รองผู้บังคับการ พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก. พ.ต.อ.วิสุทธิ ภู่พันธ์ศรี ผกก.สภ.เมือง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย นำตัว นายนิวัฒน์ ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดที่เกิดเหตุ เริ่มจากนายพยงค์ และนายนิวัฒน์ เดินทางกลับเข้าบ้านพักหลังจากที่ออกไปทำธุระที่ข้างนอก โดยผู้ต้องหาระบุว่า ในวันเกิดเหตุตัวเอง และผู้ตายกลับมาจากการไปทำธุระนอกเมือง โดยใช้รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเซเว่น หมายเลขทะเบียน กฉ 9349 สุราษฎร์ธานี กลับเข้าบ้านพักดังกล่าว จากนั้นนั้นใช้กุญแจเปิดประตูบ้านนำรถเข้าบ้าน และเอาเงาะลงจากรถไปวางที่โต๊ะรับแขก โดยผู้ต้องหาเดินเข้าไปในครัว ส่วนผู้ตายได้ขึ้นนอนพักดูทีวีอยู่ภายในห้องนอน
หลังจากนั้น ก็ได้เข้าไปในครัวเพื่อจัดอาหาร และนำขึ้นไปรับประทานที่ห้องนอน ขณะที่กำลังนั่งรับประทานอาหารด้วยกันก็มีโทรศัพท์เข้า ตนจึงลุกขึ้นเดินไปหญิบโทรศัพท์มาดู พบว่า เป็นแฟนคนใหม่ของผู้ตายโทร.เข้ามา จึงได้สอบถามผู้ตายแต่ผู้ตายไม่ยอมรับ จึงมีปากเสียงกัน หลังจากนั้น ผู้ตายได้เดินออกไปจากห้องไปประมาณ 5 นาที และกลับเข้าพร้อมด้วยท่อนไม้ พร้อมพูดขึ้นว่า “มึงจะเอายังไงกับกู วันนี้ต้องพูดกันให้รู้เรื่อง” จนมีปากเสียงอย่างรุนแรง ผู้ตายได้ใช้ท่อนไม้ตีใส่ตน ตนจึงยกพัดลมขึ้นมารับ และต่อสู้กันจนชุลมุนวุ่นวายข้าวของแตกกระจาย ตนแย่งไม้มาได้ และตีเข้าไปที่ผู้ตายไม่ยั้งจนไม้หัก ผู้ตายที่ได้รับบาดเจ็บก็พยายามที่จะหนีออกจากห้องแต่ ตนได้ใช้พัดลมตามไปตีที่หน้าประตู จนผู้ตายต้องหนีกลับมาที่เตียงนอน ด้วยความขาดสติจึงได้ตามมาตีด้วยขาตั้งพัดลม จนผู้ตายล้มลงบนที่นอน หลังจากนั้นได้กระหน่ำตีซ้ำจนผู้ตายแน่นิ่งไป
จากนั้นตนก็ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อที่เปื้อนเลือดออกนำใส่ถุงดำ แล้วออกจากบ้านพัก ไปโบกรถตุ๊กตุ๊กที่บริเวณถนนดอนนก ปากทางเข้าหมู่บ้าน ให้ไปส่งที่ตลาดเกษตร 2 เมื่อถึงตลาดได้ขึ้นรถตู้โดยสารประจำทางกลับบ้านที่ตะกั่วป่า จ.พังงา แล้วนำถุงดำที่ใส่เสื้อผ้าเปื้อนเลือดไปทิ้งที่ป้าละเมาะข้างบ้าน จากนั้นขึ้นรถทัวร์หลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ต่อรถไปหาเพื่อนที่ลพบุรี และติดตามข่าวสารทางสื่อ ก่อนตัดสินใจติดต่อขอมอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งบรรยากาศการทำแผนผ่านไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีมีเพื่อนบ้านในหมู่บ้านอัยการ รวมทั้งญาติผู้ตายติดตามดูการทำแผนอย่างสงบ ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมงเศษจึงเสร็จสิ้น และในเช้าวันพรุ่งนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะนำตัว นายนิวัฒน์ จงสุข ผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายนิวัฒน์ ได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา