ยะลา - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีจับกุมบุคคล และตรวจยึดอาวุธปืนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เผยอาวุธปืนที่ถูกปล้นไปเมื่อปี 47 กว่า 413 กระบอก สามารถตรวจยึดคืนได้แล้วกว่า 100 กระบอก
วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้สนธิกำลังเข้าติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดในพื้นที่ อ.รือเสาะ และ อ.ระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 27-28 มิถุนายน 2558 สามารถควบคุมตัวบุคคลเป้าหมายได้ 2 คน ตรวจยึดอาวุธปืนเล็กยาว เอ็ม 16 จำนวน 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และอุปกรณ์อื่นๆ จำนวนหลายรายการ
ซึ่งจากการตรวจสอบอาวุธปืนที่ยึดได้จากพื้นที่ ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2558 จำนวน 2 กระบอก พบว่า เป็นอาวุธปืนที่คนร้ายปล้นแย่งชิงไปจากหน่วยทักษิณพัฒนาที่ 12 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2546 และปล้นแย่งชิงจากกองพันพัฒนาที่ 4 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ส่วนอาวุธปืนที่ยึดได้จาก ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2558 จำนวน 2 กระบอก และของกลางอื่นๆ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมตัว 2 คน คือ นายอับดุลเลาะ หะยีมุ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 1/9 หมู่ที่ 7 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ จ.290/2558 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2558 และนายอาซือมัน ดาโอ๊ะ อายุ 22 ปี ที่อยู่ 303 หมู่ที่ 9 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส
โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า ในส่วนของอาวุธปืนของกองพันพัฒนาที่ 4 ที่ถูกปล้นไปเมื่อปี 2547 จำนวนทั้งสิ้น 413 กระบอก จนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามยึดคืนได้ จำนวน 104 กระบอก ยังคงเหลืออีก 309 กระบอก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการติดตามคืนมาต่อไป
“ผลสำเร็จจากการปฏิบัติเป็นไปตามนโยบาย และข้อสั่งการของ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่ได้เน้นย้ำให้หน่วยปฏิบัติงานด้านการข่าวเชิงรุก รวมทั้งความร่วมมือจากแหล่งข่าวภาคประชาชนที่ช่วยกันแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่ความสำเร็จดังกล่าว ซึ่งสามารถป้องกันความเสียหายทั้งชีวิต และทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐ และพี่น้องประชาชนอันอาจจะเกิดจากการนำอาวุธดังกล่าวใช้ในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ สำหรับบุคคลที่ถูกควบคุมตัว เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผล และนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายต่อไป” โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว