ตรัง - องค์การบริหารส่วนตำบลนาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง สนับสนุนกลุ่มทำตุ๊กตามโนราห์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น หลังได้รับความนิยม และเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะเหมาะสำหรับการนำไปมอบให้เป็นของขวัญในโอกาสสำคัญต่างๆ
วันนี้ (24 มิ.ย.) นางอารีย์ ขวัญศรีสุทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง เปิดเผยว่า มโนราห์ หรือโนรา เป็นศิลปะการแสดงพื้นเมืองชื่อดังของภาคใต้ มีแม่บทท่ารำอย่างเดียวกับละครชาตรี และมีบทร้องเป็นกลอนสด โดยจุดเด่นอย่างหนึ่งที่ผู้ชมให้ความนิยมชมชอบก็คือ เครื่องแต่งกาย เนื่องจากมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดังนั้น กลุ่มสตรีชาวตำบลนาข้าวเสีย จึงได้รวมตัวกันก่อตั้งกลุ่มทำตุ๊กตามโนราห์ขึ้นเมื่อปี 2542 โดยมีสมาชิก จำนวน 12 คน เพื่อเป็นการส่งเสริม และอนุรักษ์มโนราห์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ เนื่องจากชาวอำเภอนาโยง โดยเฉพาะในตำบลนาข้าวเสีย ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ มีความผูกพันต่อมโนราห์มาอย่างเหนียวแน่นนับตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว จึงได้ประดิษฐ์ตุ๊กตามโนราห์ขึ้น จำนวน 2 ท่า คือ ท่าเทพพนม และท่าเขาควาย หรือผาหลา ซึ่งมีลักษณะท่ารำเหมือนกับของจริงทุกอย่าง เพียงแต่มีขนาดย่อลงมา 10 เท่า รวมทั้งใช้วัสดุในการตกแต่งเครื่องแต่งกายเหมือนกับของจริงทุกประการด้วย โดยตุ๊กตาแต่ละตัวจะใช้ระยะเวลาในการประดิษฐ์ประมาณ 3 วัน และจำหน่ายในราคาตัวละ 2,500 บาท ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะหน่วยงานราชการ เพราะเหมาะสำหรับการนำไปมอบให้ในโอกาสสำคัญ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตัวหุ่นที่นำมาประดิษฐ์ตุ๊กตามโนราห์นั้นยังทำด้วยเรซิ่น จึงมีความทนทานน้อย และดัดแปลงท่าต่างๆ ได้ไม่ค่อยสวยงามนัก ทางกลุ่มจึงประสานให้องค์การบริหารส่วนตำบลนาข้าวเสีย ช่วยสนับสนุนเบ้าหุ่นแบบขี้ผึ้ง ซึ่งต้องใช้งบประมาณ 20,000 บาท เพื่อพัฒนาการผลิตตุ๊กตามโนราห์ได้ครบทั้ง 12 ท่าต้นแบบ หรือท่าสิบสอง โดยจะทำให้สิ่งประดิษฐ์ออกมาสวยงาม และคงทนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสอดคล้องต่อความต้องการของประชาชนกลุ่มหนึ่งในภาคใต้ เช่น พัทลุง สงขลา ที่นำตุ๊กตามโนราห์ไปใช้บูชา หรือใช้รำแก้บนมากขึ้น เนื่องจากมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการนำมโนราห์ชุดใหญ่ไปแสดงจริงๆ
ด้าน นางอโนทัย ไหวพริบ ประธานกลุ่มทำตุ๊กตามโนราห์บ้านนาข้าวเสีย กล่าวว่า ล่าสุด ทางกลุ่มได้ต่อยอดไปยังการประดิษฐ์ชุดมโนราห์ทั้งของเด็ก และผู้ใหญ่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจเรียนรู้การแสดงพื้นเมืองมากขึ้น และมียอดการสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการผลิตทั้งเทริด ซึ่งเป็นเครื่องประดับศีรษะของตัวนายโรง หรือโนราใหญ่ รวมถึงเครื่องรูปปัด ปีกนกแอ่น ซับทรวง ปีก (หางหงส์) ผ้านุ่ง หน้าเพลา ผ้าห้อย หน้าผ้า หน้าพราน ฯลฯ โดยมีราคาตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาท ไปจนถึงหลายพันหลายหมื่นบาท เช่น หน้าผ้า ราคา 1.2-1.5 พันบาท เครื่องลูกปัด ราคา 4-6 พันบาท และเทริด ราคา 1.2 หมื่นบาท