ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อบจ.ภูเก็ต ร่วมสนับสนุนประเพณีวัฒนธรรมการถือสีลอดของมุสลิม ในจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2558 มอบข้าวสาร และอินทผลัม ให้ 56 มัสยิด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมอาคารศูนย์ประชุมกลุ่มจังหวัดภูเก็ต นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีมอบข้าวสาร และอินทผลัม ให้แก่ตัวแทนจากมัสยิดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตามโครงการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมการถือศีลอดของมุสลิม ในจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2558 โดยมี นายธีระ เจี่ยสกุล ประธานสภา อบจ.ภูเก็ต นายบัญทัตย์ ไชยสิทธิ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต นายจีระศักดิ์ ท่อทิพย์ ที่ปรึกษานายก อบจ.ภูเก็ต นายวินิจ หงส์อติกุล เลขานุการนายก อบจ.ภูเก็ต สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต ตัวแทนมัสยิดต่างในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม
นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ประเพณีถือศีลอดเป็นประเพณีสำคัญอย่างหนึ่งของชาวไทยมุสลิม เป็นการละเว้นทางร่างกาย ตลอดจนการรักษาอวัยวะทุกส่วนให้พ้นจากการทำความชั่ว ทั้งทางกาย วาจา และใจ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน เป็นเวลา 1 เดือน ในเดือนรอมฎอน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกฝนทั้งร่างกาย และจิตใจให้มีความหนักแน่น อดทน และได้รู้รสชาติของความหิวโหย เพื่อพร้อมที่จะเผชิญทุกสถานการณ์ รวมทั้งจะได้มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ และช่วยเหลือเกื้อกูลต่อกัน
และเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการถือศีลอดของมุสลิม ทาง อบจ.ภูเก็ต ได้มอบอินทผลัม และข้าวสาร รวมทั้ง นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ได้มอบเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่งให้แก่ตัวแทนมัสยิดในจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งสิ้น จำนวน 56 มัสยิด เพื่อนำไปใช้ในช่วงที่มีการถือศีลอด ซึ่งโครงการดังกล่าวทาง อบจ.ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
นายจีระศักดิ์ ท่อทิพย์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่สำนักจุฬาราชมนตรี ได้ออกประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่องดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือน รอมฎอน ประจำฮิจเราะห์ศักราช 1436 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 โดยให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ในวันพุธที่ 17 มิถุนายน 2558 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ซึ่งการกำหนดเดือนรอมฎอนอาศัยการดูดวงจันทร์เป็นสำคัญ การเห็นจันทร์เสี้ยวแรก หมายถึงค่ำนั้นเป็นค่ำของวันใหม่ และขึ้นเดือนใหม่ด้วย ซึ่งชาวไทยมุสลิมจะต้องถือศีลอดเป็นเวลา 1 เดือน สำหรับการถือศีลอดถือเป็นหลักปฏิบัติตามหลักตามศาสนบัญญัติ 1 ใน 5 ประการของศาสนาอิสลาม เป็นการละเว้นการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม การร่วมสังวาสระหว่างรุ่งสางจนตะวันลับขอบฟ้า งดเว้นการพูดจาโกหก ไร้สาระ ละเว้นจากการประพฤติชั่วตามแบบอย่างที่ท่านนบีมุฮัมมัด ได้กำหนดไว้
นายจีระศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ในฐานะเป็นองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมการถือศีลอดของมุสลิมในจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2558 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนข้าวสาร และอินทผลัมให้แก่มัสยิดในจังหวัดภูเก็ต ในช่วงของการถือศีลอด เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามหลักศาสนา สนับสนุนจารีตประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาวไทยมุสลิมในจังหวัดภูเก็ต และศาสนาอิสลามให้คงอยู่ตลอดไป เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วม และความเข้าใจอันดีระหว่างภาครัฐกับประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและก่อให้เกิดความรักความสามัคคีในสังคมไทย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมอาคารศูนย์ประชุมกลุ่มจังหวัดภูเก็ต นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีมอบข้าวสาร และอินทผลัม ให้แก่ตัวแทนจากมัสยิดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตามโครงการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมการถือศีลอดของมุสลิม ในจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2558 โดยมี นายธีระ เจี่ยสกุล ประธานสภา อบจ.ภูเก็ต นายบัญทัตย์ ไชยสิทธิ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต นายจีระศักดิ์ ท่อทิพย์ ที่ปรึกษานายก อบจ.ภูเก็ต นายวินิจ หงส์อติกุล เลขานุการนายก อบจ.ภูเก็ต สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต ตัวแทนมัสยิดต่างในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม
นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ประเพณีถือศีลอดเป็นประเพณีสำคัญอย่างหนึ่งของชาวไทยมุสลิม เป็นการละเว้นทางร่างกาย ตลอดจนการรักษาอวัยวะทุกส่วนให้พ้นจากการทำความชั่ว ทั้งทางกาย วาจา และใจ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน เป็นเวลา 1 เดือน ในเดือนรอมฎอน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกฝนทั้งร่างกาย และจิตใจให้มีความหนักแน่น อดทน และได้รู้รสชาติของความหิวโหย เพื่อพร้อมที่จะเผชิญทุกสถานการณ์ รวมทั้งจะได้มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ และช่วยเหลือเกื้อกูลต่อกัน
และเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการถือศีลอดของมุสลิม ทาง อบจ.ภูเก็ต ได้มอบอินทผลัม และข้าวสาร รวมทั้ง นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ได้มอบเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่งให้แก่ตัวแทนมัสยิดในจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งสิ้น จำนวน 56 มัสยิด เพื่อนำไปใช้ในช่วงที่มีการถือศีลอด ซึ่งโครงการดังกล่าวทาง อบจ.ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
นายจีระศักดิ์ ท่อทิพย์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่สำนักจุฬาราชมนตรี ได้ออกประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่องดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือน รอมฎอน ประจำฮิจเราะห์ศักราช 1436 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 โดยให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ในวันพุธที่ 17 มิถุนายน 2558 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ซึ่งการกำหนดเดือนรอมฎอนอาศัยการดูดวงจันทร์เป็นสำคัญ การเห็นจันทร์เสี้ยวแรก หมายถึงค่ำนั้นเป็นค่ำของวันใหม่ และขึ้นเดือนใหม่ด้วย ซึ่งชาวไทยมุสลิมจะต้องถือศีลอดเป็นเวลา 1 เดือน สำหรับการถือศีลอดถือเป็นหลักปฏิบัติตามหลักตามศาสนบัญญัติ 1 ใน 5 ประการของศาสนาอิสลาม เป็นการละเว้นการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม การร่วมสังวาสระหว่างรุ่งสางจนตะวันลับขอบฟ้า งดเว้นการพูดจาโกหก ไร้สาระ ละเว้นจากการประพฤติชั่วตามแบบอย่างที่ท่านนบีมุฮัมมัด ได้กำหนดไว้
นายจีระศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ในฐานะเป็นองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมการถือศีลอดของมุสลิมในจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2558 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนข้าวสาร และอินทผลัมให้แก่มัสยิดในจังหวัดภูเก็ต ในช่วงของการถือศีลอด เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามหลักศาสนา สนับสนุนจารีตประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาวไทยมุสลิมในจังหวัดภูเก็ต และศาสนาอิสลามให้คงอยู่ตลอดไป เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วม และความเข้าใจอันดีระหว่างภาครัฐกับประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและก่อให้เกิดความรักความสามัคคีในสังคมไทย
