ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือ 2 นักท่องเที่ยวตุรกี หลงป่าศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาพระแทว จ.ภูเก็ต ได้อย่างปลอดภัย
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายพงศ์ชาติ เชื้อหอม หัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาพระแทว นายวิชาติ พันธุ์คง รักษาราชการแทนหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าฯ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว โครงการคืนชะนีสู่ป่า หน่วยกู้ชีพกุศลธรรม ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ สภ.ถลาง อส.อำเภอถลาง ให้การช่วยเหลือ 2 นักท่องเที่ยวชาวตุรกีซึ่งพลัดหลงอยู่ในป่า
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 19.10.น วันที่ 13 มิ.ย.58 พนักงานโรงแรมปาล์มบีชป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตโทรศัพท์แจ้งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ว่า มีนักท่องเที่ยว 2 สามีภรรยาชาวตุรกีโทรศัพท์ส่งข้อความเป็นภาษาอังกฤษ และภาพในที่เกิดเหตุคือ อยู่ที่พิกัดต้นไม้ EOS 11 และแจ้งว่าทั้งคู่หลงป่าในขณะเดินทางท่องเที่ยวเข้าไปในศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาพระแทว หมู่ที่ 1 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
ในเวลาต่อมา ร.ต.ต.วัชระวิทย์ ไกรยุทธ รองสารวัตรตำรวจท่องเที่ยว ประสานงานไปยังศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรถลางว่า เกิดเหตุนักท่องเที่ยวหลงป่าดังกล่าว ต่อมาได้ประสานงานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตประจำจุดบ้านเมืองใหม่อำเภอถลาง และรายงานให้ นายพงศ์ชาติ เชื้อหอม หัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติ และสัตว์ป่าเขาพระแทวทราบ พร้อมกับได้จัดเจ้าหน้าที่ไปร่วมตรวจสอบบริเวณลานจอดรถ และเจ้าหน้าที่พบว่า มีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีขาวดำ ป้ายทะเบียน กค 1734 ภูเก็ต จอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถเพียงคันเดียว นอกจากนี้ ที่บริเวณรถมีแผนที่เกาะภูเก็ตเสียบคาอยู่จึงได้ตรวจสอบบันทึกเวลาการเข้าออกศูนย์ศึกษาธรรมชาติแห่งนี้ พบว่า เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในวันที่ 13 มิ.ย.เมื่อเวลาประมาณ 13.05 น.ทราบในเบื้องต้นว่า ผู้พลัดหลงหญิงคือนาง Pinar Burak ชาวตุรกีอายุ 34 ปี และสามี
ต่อมา เมื่อเวลา 22.50 น. วันเดียวกัน ชุดค้นหานักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวตุรกีพบตัวทั้งคู่ และอยู่ในสภาพอิดโรย และกระหายน้ำ และหิวข้าว ไม่สามารถเดินลงจากสันเขาพระแทวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้น้ำดื่มในเบื้องต้น และพยายามให้เดินลัดเลาะมาตามแนวทางเดินป่า โดยยึดเอาแนวน้ำตกบางแปเป็นหลัก และมีการจัดเตรียมรถพยาบาลฉุกเฉินไว้พร้อมแล้ว เพื่อลำเลียงส่งโรงพยาบาลถลาง เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกาย และจะนำส่งโรงแรมปาล์มบีชป่าตอง ตามความต้องการของนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องใช้เวลาพาตัวนักท่องเที่ยวมาที่บริเวณจุดนัดพบลานน้ำตกบางแปได้คาดว่าในเวลาประมาณ 23.00 น.และเจ้าหน้าที่ชุดช่วยเหลือ และค้นหาพร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ และอาสาสมัคร มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ประจำบ้านเมืองใหม่ สามารถนำตัวนักท่องเที่ยวทั้งคู่ คือนาย Bulent Burak และนาง Pinar Burak ถึงบริเวณจุดรวมพลลานข้างน้ำตกบางแป ในเวลาประมาณ 00.20 น.
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวตุรกี ได้รับการต้อนรับจากข้าราชการเจ้าหน้าที่ที่เตรียมรถพยาบาล และน้ำไว้พร้อมแล้วเมื่อเดินทางมาถึง ทุกคนก็ปรบมือแสดงความยินดีต้อนรับ ในขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งคู่กล่าวยืนยันว่า มีอาการอ่อนเพลียเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จึงไม่ประสงค์จะไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลถลาง หรือโรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต นอกจากนี้ต้องการจะ ไปนำรถจักรยานยนต์เช่าที่จอดไว้ที่บริเวณน้ำตกโตนไทรอำเภอถลาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้สนับสนุนตามความต้องการ และจัดรถตู้โดยสารนำส่งโรงแรมปาล์มบีชป่าตอง อีกต่อหนึ่ง และทั้งคู่กล่าวคำขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกคนเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาสเปน โดยเฉพาะผู้นำทางประจำศูนย์ศึกษาธรรมชาติ และอาสาสมัครมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายพงศ์ชาติ เชื้อหอม หัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาพระแทว นายวิชาติ พันธุ์คง รักษาราชการแทนหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าฯ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว โครงการคืนชะนีสู่ป่า หน่วยกู้ชีพกุศลธรรม ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ สภ.ถลาง อส.อำเภอถลาง ให้การช่วยเหลือ 2 นักท่องเที่ยวชาวตุรกีซึ่งพลัดหลงอยู่ในป่า
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 19.10.น วันที่ 13 มิ.ย.58 พนักงานโรงแรมปาล์มบีชป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตโทรศัพท์แจ้งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ว่า มีนักท่องเที่ยว 2 สามีภรรยาชาวตุรกีโทรศัพท์ส่งข้อความเป็นภาษาอังกฤษ และภาพในที่เกิดเหตุคือ อยู่ที่พิกัดต้นไม้ EOS 11 และแจ้งว่าทั้งคู่หลงป่าในขณะเดินทางท่องเที่ยวเข้าไปในศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาพระแทว หมู่ที่ 1 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
ในเวลาต่อมา ร.ต.ต.วัชระวิทย์ ไกรยุทธ รองสารวัตรตำรวจท่องเที่ยว ประสานงานไปยังศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรถลางว่า เกิดเหตุนักท่องเที่ยวหลงป่าดังกล่าว ต่อมาได้ประสานงานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตประจำจุดบ้านเมืองใหม่อำเภอถลาง และรายงานให้ นายพงศ์ชาติ เชื้อหอม หัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติ และสัตว์ป่าเขาพระแทวทราบ พร้อมกับได้จัดเจ้าหน้าที่ไปร่วมตรวจสอบบริเวณลานจอดรถ และเจ้าหน้าที่พบว่า มีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีขาวดำ ป้ายทะเบียน กค 1734 ภูเก็ต จอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถเพียงคันเดียว นอกจากนี้ ที่บริเวณรถมีแผนที่เกาะภูเก็ตเสียบคาอยู่จึงได้ตรวจสอบบันทึกเวลาการเข้าออกศูนย์ศึกษาธรรมชาติแห่งนี้ พบว่า เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในวันที่ 13 มิ.ย.เมื่อเวลาประมาณ 13.05 น.ทราบในเบื้องต้นว่า ผู้พลัดหลงหญิงคือนาง Pinar Burak ชาวตุรกีอายุ 34 ปี และสามี
ต่อมา เมื่อเวลา 22.50 น. วันเดียวกัน ชุดค้นหานักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวตุรกีพบตัวทั้งคู่ และอยู่ในสภาพอิดโรย และกระหายน้ำ และหิวข้าว ไม่สามารถเดินลงจากสันเขาพระแทวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้น้ำดื่มในเบื้องต้น และพยายามให้เดินลัดเลาะมาตามแนวทางเดินป่า โดยยึดเอาแนวน้ำตกบางแปเป็นหลัก และมีการจัดเตรียมรถพยาบาลฉุกเฉินไว้พร้อมแล้ว เพื่อลำเลียงส่งโรงพยาบาลถลาง เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกาย และจะนำส่งโรงแรมปาล์มบีชป่าตอง ตามความต้องการของนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องใช้เวลาพาตัวนักท่องเที่ยวมาที่บริเวณจุดนัดพบลานน้ำตกบางแปได้คาดว่าในเวลาประมาณ 23.00 น.และเจ้าหน้าที่ชุดช่วยเหลือ และค้นหาพร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ และอาสาสมัคร มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ประจำบ้านเมืองใหม่ สามารถนำตัวนักท่องเที่ยวทั้งคู่ คือนาย Bulent Burak และนาง Pinar Burak ถึงบริเวณจุดรวมพลลานข้างน้ำตกบางแป ในเวลาประมาณ 00.20 น.
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวตุรกี ได้รับการต้อนรับจากข้าราชการเจ้าหน้าที่ที่เตรียมรถพยาบาล และน้ำไว้พร้อมแล้วเมื่อเดินทางมาถึง ทุกคนก็ปรบมือแสดงความยินดีต้อนรับ ในขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งคู่กล่าวยืนยันว่า มีอาการอ่อนเพลียเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จึงไม่ประสงค์จะไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลถลาง หรือโรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต นอกจากนี้ต้องการจะ ไปนำรถจักรยานยนต์เช่าที่จอดไว้ที่บริเวณน้ำตกโตนไทรอำเภอถลาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้สนับสนุนตามความต้องการ และจัดรถตู้โดยสารนำส่งโรงแรมปาล์มบีชป่าตอง อีกต่อหนึ่ง และทั้งคู่กล่าวคำขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกคนเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาสเปน โดยเฉพาะผู้นำทางประจำศูนย์ศึกษาธรรมชาติ และอาสาสมัครมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต