ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 เตรียมฟันไกด์ที่ละเลยปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้าไปจับปลาสวยงามในทะเลภูเก็ต และพังงา หลังมีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวจีนใช้ขนมปังล่อปลาสวยงามมาจับเล่น
จากกรณีที่ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้โพสต์ข้อความ และรูปภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีที่มีนักท่องเที่ยวจีนมาท่องเที่ยวที่เกาะไข่ อ.เกาะยาว จ.พังงา แล้วใช้ขนมปังล่อปลาสวยงามให้กินแล้วใช้ผ้า และถุงช้อนปลาจับขึ้นมาเล่นแล้วมีการถ่ายภาพกันนั้น หลังจากที่มีการโพสต์รูปภาพและข้อความดังกล่าวก็มีการแชร์ข้อความ และมีการแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสมกันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด วันนี้ (12 มิ.ย.) นายสันติ ป่าหวาย นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 พร้อมด้วย ร.ต.อ.เอกชัย ศิริ รองสารวัตรตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้สนธิกำลังลงตรวจสอบพื้นที่เกาะไข่ เพื่อดูสถานการณ์พฤติกรรมของนักท่องเที่ยว และพบปะบริษัทนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ที่นำนักท่องเที่ยวมาเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อชี้แจงสรุปให้รู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากความไม่ใส่ใจ ไม่ดูแลของมัคคุเทศก์ และบริษัทนำเที่ยวที่ไม่แจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบว่า การจับปลาการ์ตูน หรือปลาสวยงามต่างๆ เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลเสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ทางสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวจึงต้อลงมาตรวจสอบ และให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ทั้งการอธิบายด้วยคำพูด แจกโปสเตอร์ วิธีการท่องเที่ยวการปฏิบัติต่อทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่ถูกต้อง พร้อมทั้งมีการกำชับต่อบริษัทนำเที่ยว และไกด์ว่าต่อไปหากมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกทางสำนักงานงานธุรกิจท่องเที่ยวจะดำเนินการเอาผิดต่อบริษัทนำเที่ยว และมัคคุเทศก์อย่างถึงที่สุด
นายสันติ ป่าหวาย นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศน์สาขาภาคใต้เขต 2 กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้ยังพบว่าไกด์ที่นำนักท่องเที่ยวชาวจีนมาท่องเที่ยวบางรายยังละเลยในหน้าที่ไม่เอาใจใส่ไม่ดูแลนักท่องเที่ยวเท่าที่ควร โดยขณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่นั้นพบว่า นักท่องเที่ยวจีนใช้ขนมปังมาล่อปลาการ์ตูนให้เข้ามาในถุง ขณะที่ไกด์ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้นั่งอยู่ในเรือไม่สนใจนักท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องไปห้ามปรามนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว และชี้แจงให้เข้าใจว่าไม่สามารถทำได้ พร้อมทั้งได้เรียกไกด์มาตักเตือน และยึดบัตรไกด์ไว้ก่อนชั่วคราว เพราะไม่แนะนำและดูแลนักท่องเที่ยวมีความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวมัคคุเทศน์ พุทธศักราช 2551
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางสำนักงานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ภาคใต้เขต 2 ได้รับความร่วมมือจากบริษัทนำเที่ยวหลายรายในการทำโปสเตอร์ชี้แจงถึงข้อห้ามต่างๆ ที่ไม่สามารถกระทำในการการท่องเที่ยวทางทะเลมาแจกให้ไกด์ และนักท่องเที่ยว ซึ่งในเร็วๆ นี้จะมีการจัดอบรมกลุ่มมัคคุเทศก์นำเที่ยวในเรื่องการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและทะเล