หน้าฝน หรือช่วง GREEN SEASON หลายคนมองว่าเที่ยวทะเลไม่สนุก ต้องผจญกับเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมา แต่ GREEN SEASON ในอันดามันฝนไม่ได้ตกลงมาทุกวัน น้ำทะเลสีครามสวยเหมือนทุกๆ วัน ทำให้ได้อีกบรรยากาศ และยิ่งได้ไปกับโปรแกรมดีๆ ที่ “บลูอันดา” จัดไว้ให้แล้ว รับรองว่าคุณจะประทับใจกับการเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวในช่วง GREEN SEASON กันเลยที่เดียว เราไปเที่ยวกับโปรแกรม “เสน่หาอันดามัน” ของบลูอันดา กันดีกว่า
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “เที่ยวท่องล่องใต้” ได้ร่วมเดินทางท่องเที่ยวไปกับทริป “เสน่หาอันดามัน” กับทางบลูอันดา บริษัทนำเที่ยวของคนภูเก็ต ที่ได้ค้นหาโปรแกรมท่องทะเลอันดามันให้เลือกหลากหลายโปรแกรมตามแต่ใจปรารถนา ทั้งเกาะห้อง ดินแดนมหัศจรรย์ กาโรส เกาะพีพี ซันเซทอ่าวพังงา ฯลฯ และในช่วง GREEN SEASON นี้ บลูอันดาได้ค้นหาโปรแกรมท่องเที่ยวใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ที่จะพาทุกท่านไปค้นหาเสน่ห์ของเกาะยาวน้อย จ.พังงา ตามโปรแกรม “เสน่หาอันดามัน” ตั้งแต่บัดนี้จนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น
เราเริ่มโปรแกรมเสน่หาอันดามัน ด้วยการกระโดดขึ้นรถตู้ VIP ในช่วงเวลาประมาณ 08.00 น.มุ่งหน้าสู่ Pier88 Seafood Terminal เพื่อลงทะเบียนร่วมเดินทางไปกับทริปนี้ พร้อมกับอาหารเช้าที่เป็นแบบคานาเป้ หน้าตาดี รสชาติเด่น ก่อนฟังบรรยายโปรแกรมที่จะได้พบในวันนี้ทั้งหมด รวมถึงการใช้อุปกรณ์ในการเล่นน้ำและดำน้ำ ประมาณ 10.00 น. ทุกคนก้าวสู่ท่าเรือ อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า เพื่อลงเรือบลูอันดา มุ่งหน้าสู่ท้องทะเลอันดามัน
เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ก็ถึงจุดแรกของโปรแกรม เรือจอดให้เราเล่นน้ำ ที่ “เกาะเหลากูดู” ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆที่ตั้งอยู่รอยต่อระหว่างจังหวัดพังงาและกระบี่ เกาะนี้มีความสวยงาม น้ำทะเลใส มีชายหาดเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังภูเขาหินปูนเล็ก 3 ลูก ปติมากรรมที่ธรรมชาติได้รังสรรให้สวยงาม การเล่นน้ำที่เกาะเหลากูดูนี้มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก เพราะยังไม่มีทัวร์อื่นๆนำนักท่องเที่ยวเข้ามาแต่อย่างใด และหากโชคดีจะได้พบกับค้างคาวฝูงใหม่และนกเงือกอีกด้วย
เล่นน้ำ นอนพักผ่อน บนชายหาด จนหน่ำใจแล้ว เรือบลูอันดามก็พาทุกคนมุ่งหน้าสู่ “Big Tree” ซึ่งตั้งอยู่ด้านเหนือสุดของเกาะยาวน้อย ที่ทางบลูอันดาได้เนรมิตให้เป็นจุดสำหรับบริการอาหารเที่ยงสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับบลูอันดา ที่ Big Tree แห่งนี้ ทุกคนจะได้สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตเบาๆ กับกิจกรรมพายคายัค หรือจะเลือกเล่นน้ำหน้าหาดก็สนุกไปอีกแบบ อร่อยกับมื้อเที่ยง “Seafood Basket mini buffet” ที่มีทั้งสลัด ข้าวผัด ต้มยำเห็ด รวมไปถึงซีฟูดสดๆ ที่มีกุ้งลายเสือตัวโตๆ ปลาหมึกไข่ ปลากะพง เป็นต้น ทานอาหารท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วย 2 บรรยากาศ คือ ทะเล หาดทราย และน้ำตกในผืนป่าชื่นร้อน
อิ่มแล้วจะมีอะไรน่าทำไปกว่าการเดินท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของ rain forest ชมต้นไม้ใหญ่ ซึ่งมีอายุกว่า 300 ปี อย่างนี้ต้องเซลฟี่กันหน่อย ระหว่างทางกลับสู่ชายหาด เราได้สัมผัสกับการจำลองวิถีชีวิตคนบนเกาะยาวน้อย ที่เผามัน เผากล้วยบนกองไฟไม้ฟืน กินกับมะพร้าวขูดสดๆ ทานคู่กับชา กาแฟร้อนๆที่ต้มน้ำกับไม้ฟืนด้วยกาน้ำแบบโบราณ…ฟินสุดๆ
สนุกกันพอหนำใจ ขึ้นไปเที่ยวเกาะยาวน้อยกันดีกว่า มาทะเลใต้ทั้งที ต้องนั่งเรือประจำถิ่นอย่าง “เรือหัวโทง” กันสักหน่อย ถึงท่าเรือเกาะยาวน้อย เราเปลี่ยนพาหนะเป็น รถโพ้ถ้อง หรือ รถสองแถวไม้ ผ่านชุมชนบนเกาะยาว เพื่อเดินทางไปยังจุดที่ทุกคนจะได้สนุกกับการปั่นจักรยาน หรือที่คนใต้เรียกว่า “รถถีบ” หรือใครไม่ใช่นักปั่น ก็มีรถ signature “โพถ้อง” เอาไว้ให้ตามแต่ใจปรารถนา ใครอยากนั่งบนหลังคา หรือ ห้อยตรงบันได แต่ถ้าอยากรู้จักว่าที่นี่คือที่ไหนอย่างละเอียดเชิญไปนั่งหน้าข้างคนขับเลย!
วันนั้น เราเลือกที่จะสัมผัสบรรยากาศบนเกาะยาวน้อยด้วยรถถีบ ปั่นไปเบาๆ ซึมซับกับบรรยากาศ 2 ข้างทาง ที่สงบ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลมาเบาๆ (วันนั้นเมื่อเรามาถึงเกาะยาวน้อยฝนตกลมาเล็กน้อย) ทำให้นึกถึงบรรยากาศตอนเป็นเด็กฝนตกลงมาเมื่อใด ก็ต้องเล่นน้ำฝนกันให้ชุ่มช่ำ) แทบไม่เชื่อสายตาเลยว่า ถนนที่เราปั่นรถถีบผ่านได้กั้นนาผืนใหญ่ที่จรดตีนเขากับชายทะเลที่มีป่าโกงกางอันสมบูรณ์ออกจากกันได้ ถึงเวลาปลดปล่อยเด็กน้อยในตัวเรา กับกิจกรรมสุดชิค!
ปั่นลัดเลาะสู่ไร่นาสวนผสม ตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง พักเหนื่อยด้วยน้ำมะพร้าวสดๆจากสวนชาวบ้าน ที่สอยลงมาให้เห็นกันจะจะ นั่งพักในขนำน้อยรับลมที่โชยมาเป็นระลอกๆ ก่อนอำลาเจ้าของสวนเพื่อไปพบ “ฉากก่อนแสงสุดท้ายของวัน” กับ “วิวพานอรามา” ณ สุดปลายสะพาน“ท่าประดู่” ก่อนกลับสู่เรือบลูอันดา นาทีนี้ คุณจะพบความสวยงามของอาทิตย์อัสดงได้ไม่ยาก แค่คุณปล่อยใจล่องลอยสู่ท้องฟ้าและผืนทะเล ก่อนที่เรือบลูอันดาจะพาเรามาถึงท่าเรือ อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า โดยสวัสดิภาพ
ทริปนี้ เราได้รับความสุข ความทรงจำดีดี จากท้องทะเลอันดามันที่ยากจะลืมเลือน กับบริการระดับพรี่เมี่ยมจากบลูอันดา ที่ใส่ใจทุกรายละเอียดของการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเรือบลูอันดา เรือรูปแบบ ”คาตามารัน” ขนาด 17 เมตร ที่กว้างขวาง สะดวกสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในเรือครบครัน มีชั้นดาดฟ้า สำหรับอาบแดด และชื่นชมทิวทัศน์แบบไร้ขีดจำกัดยามอาทิตย์อัสดง ไกด์มืออาชีพ รถรับส่ง สิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวที่ไม่ต้องจัดเตรียมอะไรทั้งสิ้น บลูอันดาเขาเตรียมไว้ให้ทั้งหมด
อยากท่องทะเลอันดามัน ด้วยบริการระดับพรี่เมี่ยม ไปกับบลูอันดา เหมือนที่ "เที่ยวท่องล่องใต้" ได้ไปสัมผัสความประทับใจมาแล้วนั้น และที่พิเศษสุดขณะนี้ทางบลูอันดา มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับช่วง GREEN SEASON ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2558 นี้ ในราคาเพียง 5,500 บาทต่อท่านเท่านั้น ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ www.bluanda.com หรือ 076-604 230 แล้วคุณจะประทับใจในการท่องเที่ยว หากเลือกให้บลูอันดาพาคุณไปท่องท้องทะเลอันดามัน