นครศรีธรรมราช - เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านพักของนักวิชาการ และนักศึกษาประจำฟาร์มกุ้งภายในมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ยังไม่มีความคืบหน้า ด้านผู้เสียหายตั้งคำถามต่อการตรวจสอบที่เกิดเหตุของตำรวจ ทหารส่งกำลัง 5 นาย ร่วมดูแลความปลอดภัย
วันนี้ (7 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) จ.นครศรีธรรมราช หลังจากเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามระดมยิงนักวิชาการ และนักศึกษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เมื่อคืนวันที่ 5 มิ ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในทางคดี
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับนายทรงวุฒิ พัฒแก้ว ถึงชนิดของอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ยิง และจุดที่กระสูนปืนเจาะทะลุเหล็กคานหน้าบ้านพัก
ด้าน นายทรงวุฒิ พัฒแก้ว กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อคืนวันที่ 5 มิ.ย. เวลาประมาณ 00.40 น. หลังจากนั้นเวลาประมาณ 1 นาฬิกา ของวันที่ 6 มิ.ย.ทางมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โทรศัพท์มาประสานว่าให้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจในจุดเกิดเหตุอย่าออกไปไหน
“ผมก็นั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจกับนักศึกษาตามที่ทางมหาวิทยาลัยแนะนำ รอจนถึงเช้าก็ไม่มีใครมา ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย มาถึงจุดเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. แต่จากการสังเกตการณ์ทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ไม่ค่อยได้ลงรายละเอียดแม้แต่ปลอกกระสุนปืนก็ไม่ได้ค้นหา”
นายทรงวุฒิ กล่าวต่อว่า เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้ เวลาประมาณ 16.30 น.ตนได้ไปแจ้งความบันทึกประจำวันที่ สภ.ท่าศาลา ไว้เป็นหลักฐาน ในส่วนของมหาวิทยาลัย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่มีการดำเนินการ หรือสั่งการใดๆ
นายทรงวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ต่อมาเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.40 น. ร.ต.ท.จเร พลแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้โทรศัพท์มาพูดคุยว่าอาวุธปืนที่ยิงเป็นอาวุธปืนอะไร บ้านพักจุดที่ถูกกระสูนมีความสูงจากพื้นที่กี่เมตร ตนได้ยินคำถามแล้วงงนิดหน่อย เพราะรายละเอียดเหล่านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุควรจะต้องบันทึกไว้ ไม่ใช่มาสอบถามผู้เสียหายทางโทรศัพท์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านพักภายในฟาร์มศึกษาวิจัยกุ้งของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช ได้มีเจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 2 นาย เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนนักวิชาการ และนักศึกษาที่ทำงานศึกษาวิจัยอยู่ในฟาร์ม ต่อมา ช่วงเช้าวันนี้ (7 มิ.ย.) เวลาประมาณ 07.30 น.ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาในเพิ่มอีก 5 นาย รวมเป็น 7 นาย เพื่อดูลความสงบเรียบร้อยหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว