ยะลา - คนร้ายก่อเหตุอุกอาจใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มรถเก๋งทหาร ฉก.ยะลา 12 ขณะกำลังกลับฐานปฏิบัติการ เสียชีวิต 4 นาย ก่อนฉกอาวุธปืน 4 กระบอกหลบหนี
วันนี้ (3 มิ.ย.) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุ สถานีตำรวจภูธรรามัน อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต บนถนนสายรามัน-บาลอ บ้านปาลูกาปาลัส ม.7 ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา จึงได้แจ้ง พ.ต.ท.ชาญวุฒิ รักษาพราหมณ์ รองผู้กำกับการงานป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรรามัน ทราบ พร้อมประสาน พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา เดินทางไปตรวจสอบทันที
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบนถนนกลางหมู่บ้าน มีบ้านเรือนประชาชนอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋งโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ก 3912 ปัตตานี จอดอยู่ฝั่งเลนด้านซ้ายของถนน ในสภาพถูกยิงด้วยกระอาวุธปืนสงครามพรุนไปทั้งคัน ใกล้กับรถยนต์คันดังกล่าวพบศพของเจ้าหน้าที่ทหาร ทราบชื่อต่อมาคือ จ.ส.อ.ทนง มีชัยชนะ จ.ส.อ.อดิศร แสงโกสิทธิ์ พลทหารธีรคม ไกรฤทธิ์ และพลทหารธีรนัย ล้วนซิ่ง สังกัด ชป.ร้อย ร.15221 ฉก.ยะลา 12 นอนเสียชีวิตอยู่ใกล้กับรถเก๋งคันดังกล่าว โดยสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ลำตัว และศีรษะ ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกเกลื่อนอยู่บนถนนเป็นจำนวนมาก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะผู้เสียชีวิตทั้ง 4 นาย กำลังเดินทางด้วยรถยนต์เก๋งส่วนตัวกลับจากร่วมงานแข่งขันกีฬาโรงเรียนตาดีกาที่สนามกีฬากลาง อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อกลับไปยังฐานปฏิบัติการที่อยู่ใกล้กับสถานีอนามัย ต.บาลอ อ.รามัน เมื่อขับรถยนต์มาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวนไม่ต่ำกว่า 3 คน แฝงตัวมากับรถบรรทุก 10 ล้อ ที่บรรทุกทรายอยู่เต็มคันได้ขับตามประกบ แล้วคนร้ายที่อยู่บนรถบรรทุกได้ใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่รถของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะจอดรถ และลงมายิงซ้ำจนแน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 4 นายเสียชีวิต หลังจากนั้นคนร้ายยังได้ขโมยเอาอาวุธปืนเอ็ม16 A2 จำนวน 3 กระบอก และปืนพกขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก ของเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิต หลบหนีไปด้วย
โดยหลังก่อเหตุคนร้ายยังได้โปรยตะปูเรือใบตามเส้นทางเพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่ ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือของกลุ่มคนร้ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
