สุราษฎร์ธานี - ชาวโรฮีนจากว่า 100 คน ถูกควบคุมตัวในสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี รวมตัวประท้วงทุบทำลายเรือนนอน เหตุไม่พอใจขอเอาอาหารไปกินในเรือนนอนไม่ได้ พร้อมเรียกร้องขอไปประเทศที่ 3 แต่ระบุขอไปมาเลเซีย ไม่ไปอเมริกา
เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (1 มิ.ย.) กลุ่มชาวโรฮีนจาทั้งหญิง และเด็ก จำนวน 94 คน ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ (บ้านศรีสุราษฎร์) ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รวมประท้วงปิดไฟ พร้อมทั้งทุบทำลายประตูหน้าต่างของเรือนนอน เพื่อต้องการหลบหนีออกจากสถานที่ควบคุม หลังได้รับแจ้ง ทาง นายวิชวุทย์ จินโต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิชาต บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี นำกำลังตำรวจจาก สภ.ขุนทเล และ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กว่า 50 นาย เข้าคุมสถานการณ์
เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมสถานการณ์ได้ โดยนำตัวแกนนำ จำนวน 5 คนแยกออกจากกลุ่มมาทำการสอบสวน พร้อมนำลวดหนามมาปิดล้อมตัวอาคาร และเพิ่มแสงไฟส่องสว่างรอบตัวอาคาร พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ จำนวน 30 นาย ดูแลป้องกันเหตุกลุ่มโรฮีนจาหลบหนีออกจากเรือนนอน
ส่วนสาเหตุการประท้วงในครั้งนี้ เกิดจากชาวโรฮีนจาไม่ไม่พอใจที่ขอนำอาหารเข้าไปกินในเรือนนอนไม่ได้ จึงรวมตัวประท้วง และทุบทำลายข้างของดังกล่าว ซึ่งมีทั้งประตู และหน้าต่างของเรือนนอน พร้อมเรียกร้องขอไปประเทศที่ 3 โดยระบุจะไปประเทศมาเลเซีย ไม่ขอไปสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่เตรียมส่งแยกแกนนำไปควบคุมตัวที่อื่น
สำหรับกลุ่มโรฮีนจาที่สุราษฎร์ธานี ที่ถูกควบอยู่สถานที่แห่งนี้ เป็นผู้หญิง และเด็ก จำนวน 94 คน เป็นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ จำนวน 35 คน นอกนั้นเป็นผู้ที่หลบหนีเข้าเมือง และมีเหตุพยายามหลบหนีออกจากที่ควบคุมมาหลายครั้งแล้ว