พังงา - ชนกันสนั่น! รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกทรายเต็มคันหักหลบรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำทับรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนพังยับทั้งคัน นอกจากนั้น ยังชนกับรถอเนกประสงค์อีกคัน เหตุเกิดกลางตลาดบนถนนเพชรเกษม สายตะกั่วป่า-เขาหลัก จ.พังงา
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (31 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมฆาตะกั่วป่า ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ ชนรถกระบะ บริเวณถนนเพชรเกษมสาย ตะกั่วป่า-เขาหลัก ม.2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียนตัวหัว 70-1238 ภูเก็ต ตัวรถพลิกคว่ำอยู่ริมถนน ทรายตกกระจัดกระจ่าย ส่วนตัวพ่วงตัวท้ายหมายเลขทะเบียน 80-9542 ภูเก็ต อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบพบว่า รถพ่วง 18 ล้อ มีนายศักดิ์ดา ธิมัจฉา อายุ 26 ปี เป็นคนขับใกล้กันพบรถรถเชฟโรเลต สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กค 3127 พังงา สภาพถูกรถพ่วงทับจนได้รับความเสียหายพังยับ ซึ่งเป็นรถของ นายนายธวัช นิรนาทวโรดม ส่วนรถอีกคันที่จอดอยู่ในซอยเข้าหมู่บ้านบางมรวน เป็นรถมิตซูบิชิ ปาเจโร สีขาว หมายเลขทะเบียน กค 1144 พังงา ถูกชนเข้าที่บริเวณท้ายรถจนกระจกแตกเสียหาย มีนายนายกฤตคุณ เจริญรัตน์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 ม.5 บ้านบางมรวน ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นเจ้าของ ซึ่งที่เกิดเหตุมีประชาชนมุ่งดูเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถาม นายนายธวัช นิรนาทวโรดม เจ้าของรถรถเชฟโรเลต สีน้ำตาล ทราบว่า การเกิดเหตุรถพ่วง 18 ล้อที่บรรทุกทรายเต็มคันรถ วิ่งมาด้วยความเร็วก่อนถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีรถมิตซูบิชิ ปาเจโร กำลังชะลอรถเลี้ยวเพื่อเข้าด้านขวา แต่รถพ่วงที่วิ่งตามหลังมาด้วยความเร็วสูงเบรกไม่ทันและหักหลบ จนทำรถพลิกคว่ำมาทับรถของตนซึ่งจอดอยู่ข้างทางจนได้รับความเสียหายทั้งคัน โชคดีขณะก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถมาจากตลาด และลงจากรถเข้าบ้านได้เพียง 5 นาทีเท่านั้น จึงทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จึงอยากฝากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกวดขันรถบรรทุกทรายที่วิ่งกันจำนวนมาก และวิ่งด้วยความเร็วโดยเฉพาะในเขตชุมชน เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดครั้งแรกก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็เคยเกิดรถพ่วงบรรทุกทรายหลุดเข้าบ้านเรือนประชาชนเช่นเดียวกัน
ด้าน นายศักดิ์ดา ธิมัจฉา อายุ 26 ปี คนขับรถพ่วง 18 ล้อ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถบรรทุกทรายมาจาก อ.ตะกั่วป่า เพื่อนำทรายไปส่งที่ ต.โคกกลอย มาถึงที่เกิดเหตุรถมิตซูบิชิ ปาเจโร เปิดไฟเลี้ยวขวาแบบกะทันหันจนทำให้เบรกไม่ทันพุ่งชนท้าย และพลิกคว่ำทรายหกกระจัดกระจ่าย พุ่งมาจอดที่หน้าร้านซ่อมรถ และตัวรถได้ทับไปยังรถที่จอดอยู่ข้างถนนจนได้รับความเสียหายดังกล่าว
ขณะที่ นายกฤตคุณ เจริญรัตน์ เจ้าของรถรถมิตซูบิชิ ปาเจโร สีขาว กล่าวว่า ตนได้ขับรถมาจากตะกั่วป่า และกำลังเปิดไฟเลี้ยวจะเลี้ยวขวาบนเส้นเหลืองกลางถนนเพื่อที่จะไปทานข้าว อยู่ๆ รถพ่วง 18 ล้อ ที่วิ่งมาด้วยความเร็ว และจะแซงขึ้นขวา ตนรู้สึกตกใจมาก และรถพ่วงวิ่งมาชนท้ายรถด้านขวาแต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกทรายวิ่งมาด้วยความเร็วจนทำให้เบรกไม่ทันชนท้ายรถมิตซูบิชิ ปาเจโร สีขาว และเสียหลักพลิกคว่ำทับรถยนต์รถเชฟโรเลต สีน้ำตาล ที่จอดอยู่ริมถนนเพชรเกษม เสียหายยับทั้งคัน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานพร้อมดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัญหารถพ่วงบรรทุกทรายน้ำหนักเกินไม่ปกปิดผ้าใบ ทำให้ทรายหกเรี่ยราดสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวเขาหลักที่รถบรรทุกวิ่งผ่าน แม้ว่าก่อนหน้านี้ เคยมีชาวบ้านแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจจับ แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุมาแบบนี้หลายครั้งแล้ว
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (31 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมฆาตะกั่วป่า ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ ชนรถกระบะ บริเวณถนนเพชรเกษมสาย ตะกั่วป่า-เขาหลัก ม.2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียนตัวหัว 70-1238 ภูเก็ต ตัวรถพลิกคว่ำอยู่ริมถนน ทรายตกกระจัดกระจ่าย ส่วนตัวพ่วงตัวท้ายหมายเลขทะเบียน 80-9542 ภูเก็ต อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบพบว่า รถพ่วง 18 ล้อ มีนายศักดิ์ดา ธิมัจฉา อายุ 26 ปี เป็นคนขับใกล้กันพบรถรถเชฟโรเลต สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กค 3127 พังงา สภาพถูกรถพ่วงทับจนได้รับความเสียหายพังยับ ซึ่งเป็นรถของ นายนายธวัช นิรนาทวโรดม ส่วนรถอีกคันที่จอดอยู่ในซอยเข้าหมู่บ้านบางมรวน เป็นรถมิตซูบิชิ ปาเจโร สีขาว หมายเลขทะเบียน กค 1144 พังงา ถูกชนเข้าที่บริเวณท้ายรถจนกระจกแตกเสียหาย มีนายนายกฤตคุณ เจริญรัตน์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 ม.5 บ้านบางมรวน ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นเจ้าของ ซึ่งที่เกิดเหตุมีประชาชนมุ่งดูเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถาม นายนายธวัช นิรนาทวโรดม เจ้าของรถรถเชฟโรเลต สีน้ำตาล ทราบว่า การเกิดเหตุรถพ่วง 18 ล้อที่บรรทุกทรายเต็มคันรถ วิ่งมาด้วยความเร็วก่อนถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีรถมิตซูบิชิ ปาเจโร กำลังชะลอรถเลี้ยวเพื่อเข้าด้านขวา แต่รถพ่วงที่วิ่งตามหลังมาด้วยความเร็วสูงเบรกไม่ทันและหักหลบ จนทำรถพลิกคว่ำมาทับรถของตนซึ่งจอดอยู่ข้างทางจนได้รับความเสียหายทั้งคัน โชคดีขณะก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถมาจากตลาด และลงจากรถเข้าบ้านได้เพียง 5 นาทีเท่านั้น จึงทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จึงอยากฝากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกวดขันรถบรรทุกทรายที่วิ่งกันจำนวนมาก และวิ่งด้วยความเร็วโดยเฉพาะในเขตชุมชน เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดครั้งแรกก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็เคยเกิดรถพ่วงบรรทุกทรายหลุดเข้าบ้านเรือนประชาชนเช่นเดียวกัน
ด้าน นายศักดิ์ดา ธิมัจฉา อายุ 26 ปี คนขับรถพ่วง 18 ล้อ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถบรรทุกทรายมาจาก อ.ตะกั่วป่า เพื่อนำทรายไปส่งที่ ต.โคกกลอย มาถึงที่เกิดเหตุรถมิตซูบิชิ ปาเจโร เปิดไฟเลี้ยวขวาแบบกะทันหันจนทำให้เบรกไม่ทันพุ่งชนท้าย และพลิกคว่ำทรายหกกระจัดกระจ่าย พุ่งมาจอดที่หน้าร้านซ่อมรถ และตัวรถได้ทับไปยังรถที่จอดอยู่ข้างถนนจนได้รับความเสียหายดังกล่าว
ขณะที่ นายกฤตคุณ เจริญรัตน์ เจ้าของรถรถมิตซูบิชิ ปาเจโร สีขาว กล่าวว่า ตนได้ขับรถมาจากตะกั่วป่า และกำลังเปิดไฟเลี้ยวจะเลี้ยวขวาบนเส้นเหลืองกลางถนนเพื่อที่จะไปทานข้าว อยู่ๆ รถพ่วง 18 ล้อ ที่วิ่งมาด้วยความเร็ว และจะแซงขึ้นขวา ตนรู้สึกตกใจมาก และรถพ่วงวิ่งมาชนท้ายรถด้านขวาแต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกทรายวิ่งมาด้วยความเร็วจนทำให้เบรกไม่ทันชนท้ายรถมิตซูบิชิ ปาเจโร สีขาว และเสียหลักพลิกคว่ำทับรถยนต์รถเชฟโรเลต สีน้ำตาล ที่จอดอยู่ริมถนนเพชรเกษม เสียหายยับทั้งคัน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานพร้อมดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัญหารถพ่วงบรรทุกทรายน้ำหนักเกินไม่ปกปิดผ้าใบ ทำให้ทรายหกเรี่ยราดสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวเขาหลักที่รถบรรทุกวิ่งผ่าน แม้ว่าก่อนหน้านี้ เคยมีชาวบ้านแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจจับ แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุมาแบบนี้หลายครั้งแล้ว