สุราษฎร์ธานี - บิ๊กทหารระบุชัด 1 ใน 3 รปภ.เกี่ยวข้องต่อเหตุคาร์บอมบ์ห้างเซ็นทรัลฯ สมุย ส่วนรถมิตซูบิชิ ไทรทัน แค่นำทางรถคาร์บอมบ์มาส่งที่ท่าเรือดอนสัก ไม่ลงเกาะ ในขณะเจ้าหน้าที่ประชุมเครียดคลี่คลายคดี พร้อมกันพื้นที่ไม่ให้สื่อเข้าใกล้
เช้าวันนี้ (16 เม.ย.) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการคลี่คลายคดีเหตุคาร์บอม สภ.บ่อผุด เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีคาร์บอมลานจอดศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยเฉพาะการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการไล่ล่าคนร้ายว่า หลังจากนำรถคันเกิดเหตุมาจอดแล้วออกไปทางไหน เดินทางออกจากเกาะอย่างไร โดยมีการแบ่งชุดเจ้าหน้าที่ในการลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะ พล.ต.เกื้อกูล อินทรนาจักร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ควบคุมตัว หน.รปภ.พร้อมพวก จำนวน 5 คน มาเก็บตัวอยู่ค่ายวิภาวดีรังสิต ตาม ม.44 มีอำนาจควบคุมตัวได้ 7 วัน ทางทหารให้การดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งทั้งหมดให้ความร่วมมือต่อการตอบข้อซักถามเป็นไปอย่างดี และเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พร้อมกับกล่าวว่า จากการสอบปากคำทั้งหมดพบว่า 1 ใน 3 รปภ.ที่ถูกคุมตัวในช่วงแรกมีส่วนพัวพันต่อเหตุการณ์ หลังจากครบ 7 วัน ทางทหารจะส่งต่อให้เจ้าหน้าทีตำรวจสอบสวนต่อไป
ส่วนการตรวจสอบข้อมูลของรถกันที่ใช้เกิดเหตุ และรถที่เดินทางมาด้วยกันพบว่า จากการบูรณาการติดตามจากรถคันก่อเหตุที่ออกมาจาก ยะหา ผ่านจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าสุราษฎร์ธานี ได้ข้อมูลเป็นประโยชน์พอจะหาจุดเป็นที่พัก จุดดำเนินการ แวะเข้าซื้อของ เข้าห้องน้ำ ส่วนรถกระบะมิตซูมิตชิ ไทรทัน สีขาว ที่เป็นรถนำนั้นทางการข่าวพบว่า มาส่งแค่ท่าเรือดอนสักไม่ได้ลงไปยังเกาะสมุยร่วมกับรถคาร์บอมบ์ ขณะการติดตามทางการข่าวของทหารจะมุ่งประเด็นการเดินทางเข้าไปในห้าง ส่วนการเดินทางออกของผู้ก่อเหตุเป็นเรื่องยาก ยังบีบประเด็นไม่ได้ว่าออกจากเกาะไปอย่างไร เมื่อใด
ส่วนประเด็นการก่อเหตุยังอยู่ใน 3 ประเด็นที่ทาง ผบ.ตร ตั้งไว้ ยังไม่ทิ้งน้ำหนักไปทางใดทางหนึ่ง ส่วนการโยงการเมืองหรือไม่มุ่งไปที่หลักฐาน รอผลยืนยันแน่นอน ข้อมูลปัจจุบันยังไม่สามารถเชื่อมต่อได้ และเหตุการณ์ที่เกาะสมุย และโคออปยังไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ต้องรอการยืนยันจากพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง
ในขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลาง ได้นำพยานหลักฐานที่สำคัญหลายชนิด จำนวน 1 กล่องใหญ่ เตรียมนำขึ้นเครื่องบินไปตรวจพิสูจน์หาคราบน้ำมัน และสิ่งแปลกปลอม เพื่อสรุปหาสาเหตุการเกิดเหตุอย่างแท้จริง ซึ่งคาดว่า 15 วันรู้ผล
เช้าวันนี้ (16 เม.ย.) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการคลี่คลายคดีเหตุคาร์บอม สภ.บ่อผุด เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีคาร์บอมลานจอดศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยเฉพาะการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการไล่ล่าคนร้ายว่า หลังจากนำรถคันเกิดเหตุมาจอดแล้วออกไปทางไหน เดินทางออกจากเกาะอย่างไร โดยมีการแบ่งชุดเจ้าหน้าที่ในการลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะ พล.ต.เกื้อกูล อินทรนาจักร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ควบคุมตัว หน.รปภ.พร้อมพวก จำนวน 5 คน มาเก็บตัวอยู่ค่ายวิภาวดีรังสิต ตาม ม.44 มีอำนาจควบคุมตัวได้ 7 วัน ทางทหารให้การดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งทั้งหมดให้ความร่วมมือต่อการตอบข้อซักถามเป็นไปอย่างดี และเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พร้อมกับกล่าวว่า จากการสอบปากคำทั้งหมดพบว่า 1 ใน 3 รปภ.ที่ถูกคุมตัวในช่วงแรกมีส่วนพัวพันต่อเหตุการณ์ หลังจากครบ 7 วัน ทางทหารจะส่งต่อให้เจ้าหน้าทีตำรวจสอบสวนต่อไป
ส่วนการตรวจสอบข้อมูลของรถกันที่ใช้เกิดเหตุ และรถที่เดินทางมาด้วยกันพบว่า จากการบูรณาการติดตามจากรถคันก่อเหตุที่ออกมาจาก ยะหา ผ่านจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าสุราษฎร์ธานี ได้ข้อมูลเป็นประโยชน์พอจะหาจุดเป็นที่พัก จุดดำเนินการ แวะเข้าซื้อของ เข้าห้องน้ำ ส่วนรถกระบะมิตซูมิตชิ ไทรทัน สีขาว ที่เป็นรถนำนั้นทางการข่าวพบว่า มาส่งแค่ท่าเรือดอนสักไม่ได้ลงไปยังเกาะสมุยร่วมกับรถคาร์บอมบ์ ขณะการติดตามทางการข่าวของทหารจะมุ่งประเด็นการเดินทางเข้าไปในห้าง ส่วนการเดินทางออกของผู้ก่อเหตุเป็นเรื่องยาก ยังบีบประเด็นไม่ได้ว่าออกจากเกาะไปอย่างไร เมื่อใด
ส่วนประเด็นการก่อเหตุยังอยู่ใน 3 ประเด็นที่ทาง ผบ.ตร ตั้งไว้ ยังไม่ทิ้งน้ำหนักไปทางใดทางหนึ่ง ส่วนการโยงการเมืองหรือไม่มุ่งไปที่หลักฐาน รอผลยืนยันแน่นอน ข้อมูลปัจจุบันยังไม่สามารถเชื่อมต่อได้ และเหตุการณ์ที่เกาะสมุย และโคออปยังไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ต้องรอการยืนยันจากพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง
ในขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลาง ได้นำพยานหลักฐานที่สำคัญหลายชนิด จำนวน 1 กล่องใหญ่ เตรียมนำขึ้นเครื่องบินไปตรวจพิสูจน์หาคราบน้ำมัน และสิ่งแปลกปลอม เพื่อสรุปหาสาเหตุการเกิดเหตุอย่างแท้จริง ซึ่งคาดว่า 15 วันรู้ผล