ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจกองปราบ จับแก๊งตุ๋นเงินหนุ่มใหญ่ระโนดสูญ 4.2 ล้าน พบทำเป็นขวนการใหญ่ ทำทีเป็นติดต่อธุรกิจก่อนที่จะชักชวนเล่นการพนันจนพ่ายแพ้ยับเยิน
วันนี้ (29 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ศูนย์ประสานงานกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม จ.สงขลา พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนาดล เหมพัฒน์ พงส.ผนพ.กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายธีระ ถาวร อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.สงขลา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นผู้อื่น โดยมีผู้เสียหายรายหนึ่งใน อ.ระโนด จ.สงขลา เดินทางมาชี้ตัวยืนยันว่าเป็นคนเดียวกันกับที่หลอกตุ๋นเงินไปกว่า 4.2 ล้านบาท
โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพวกประมาณ 50 คน ทำเป็นขบวนการ โดยแบ่งหน้าที่กันทำงานชัดเจน ซึ่งในครั้งนี้ได้หลอกฉ้อโกงต้มตุ๋นผู้เสียหายในพื้นที่ อ.ระโนด จ.สงขลา (ขอสงวนนาม) ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดไป จำนวน 4.2 ล้านบาท ก่อนที่จะนำเงินทั้งหมดไปแบ่งกัน พอเงินหมดก็จะกลับไปหาเหยื่อรายใหม่หมุนเวียนกันไป ซึ่งทำมาแล้วหลายท้องที่ในภาคใต้ โดยหลอกตุ๋นเงินเหยื่อมาแล้วหลายสิบราย คิดเป็นเงินรวมกว่า 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ธนาดล เผยว่า แก๊งนี้วิธีการล่อลวงเหยื่อที่หลากหลาย สำหรับกรณีของผู้เสียหายใน อ.ระโนด จ.สงขลา นั้น ผู้ต้องหาได้ทำทีเป็นตัวแทนของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์รายหนึ่ง และเข้ามาติดต่อขอเช่าพื้นที่เพื่อขอติดตั้งเสารับส่งสัญญาณโทรศัพท์ โดยตกลงให้ค่าเช่าเดือนละ 50,000 บาท พร้อมทั้งขอส่วนแบ่งค่านายหน้าในการประสานงานเดือนละ 5,000 บาท แต่ยังไม่ได้มีการลงลึกไปในรายละเอียด หรือเซ็นสัญญาเอกสารใดๆ
ต่อมา เมื่อเริ่มตีสนิทเหยื่อได้ ก็ทำทีเป็นพูดคุยว่าเจ้านายของตนเป็นคนชอบเล่นการพนัน และส่วนใหญ่จะแพ้เป็นหลักล้านมาโดยตลอด รวมทั้งชักชวนเหยื่อซึ่งค่อนข้างเป็นคนมีฐานะดี ให้เอาเงินมาเล่นพนันกับเจ้านายของตน ซึ่งเหยื่อหลงเชื่อ และนำเงินมาเล่นพนัน แต่กลับแพ้เป็นเงินถึง 4.2 ล้านบาท หลังจากนั้นเหยื่อได้บอกให้บุตรชายโอนเงินจำนวนหนึ่งที่ติดค้างอยู่ไปให้แก่คู่พนัน และบุตรชายเกิดความสงสัย เนื่องจากเป็นบัญชีที่ไม่คุ้นเคย จึงซักถามถึงเรื่องราวทั้งหมด ก่อนที่จะนำเรื่องเข้าแจ้งความต่อตำรวจกองปราบ จนสามารถสืบสวนติดตามจับกุม นายธีระ ผู้ต้องหาที่เข้ามาหลอกลวงต้มตุ๋นได้ที่ปั๊มน้ำมันเชลล์ ตรงข้ามที่ทำการไปรษณีย์ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเมือง จ.พังงา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ร่วมขบวนการที่เหลือเจ้าหน้าที่ทราบตัวแล้ว และกำลังขออนุมัติศาลออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป
