xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการสถาบันอิสลามฯ ชี้แนวคิดพูดคุยสันติแม่ทัพภาค 4 ต้องปฏิบัติเป็นรูปธรรม(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นราธิวาส - นักวิชาการสถาบันอิสลามและอาหรับศึกษา ม.วิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ระบุ แผนสันติภาพแม่ทัพภาค 4 นำร่องรอมฎอน ชี้สัญญาณดี แต่ต้องปฏิบัติเป็นรูปธรรมได้จริง
   

วานนี้ (27 พ.ค.) ที่ชั้น 4 อาคารคณะสถาบันอิสลามศึกษาและอาหรับศึกษา ม.วิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ผู้ช่วยศาสตรจารย์เจ๊ะเหล๊าะ แขกพงศ์ นักวิชาการ และ ผอ.สถาบันอิสลาม และอาหรับศึกษา (มนร.) เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวถึงกรณี พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีการจัดเวทีนำร่องในการพูดคุยเพื่อให้สันติภาพเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามนโยบายการแก้ไขปัญหาความไม่สงบของรัฐบาล เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้เห็นต่าง หรือกลุ่มเคลื่อนไหวความไม่สงบในพื้นที่ ทั้งในและนอกประเทศภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้ส่งตัวแทนของรัฐบาลมาสังเกตการณ์ในเรื่องดังกล่าวนั้น

ตนขอแสดงความชื่นชมในนโยบายแม่ทัพภาค 4 ถือเป็นการเริ่มต้นก้าวใหม่อีกครั้ง จากหลายครั้งที่รัฐบาลที่ผ่านมาพยายาม ภายใต้แผนนโยบายสร้างสันติภาพ ในพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ หรือแผนการเจรจาสันติภาพกับกลุ่ม BRN POLO หรือกลุ่มอื่นๆ หากมองในด้านนโยบาย ที่จะนำร่องแผนสันติสุขพื้นที่ ปฎิเสธเพื่อไม่ให้มีความรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอน เดือนศีลอดของชาวมุสลิมไทย และทั่วโลก ซึ่งในข้อเท็จจริง ศาสนาอิสลามได้มุงเน้นความสงบสุขและให้ทุกคนหันหน้ามาสู่พระเจ้าด้วยการประกอบความดีงามเท่านั้น และห้ามยุงเกี่ยวกับอบายมุข และทุกสิ่งในสิ่งชั่วร้าย

ผศ.เจ๊ะเลาะ ยังกล่าวอีกว่า นโยบายทัพภาค 4 ที่จะเปิดโอกาสให้แก่ผู้หลงผิด หรือผู้ที่มีหมายจับ พ.ร.ก.หรือความมั่นคง สามารถกลับบ้านในช่วงรอมฎอน ราวกลางเดือนมิถุนายนนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีมาก แต่นั้นคือ นโยบายเท่านั้น ซึ่งจะต้องดูว่า หน่วยปฏิบัติจะสานต่อรับนโบยายและปฏิบัติได้จริงจังจริงใจแค่ไหน ในส่วน 2 ฝ่าย คือ ภาครัฐ และฝ่ายตรงข้าม ต้องอดทนและเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ เพราะการหันหน้า และพูดคุยเจรจาเป็นหนทางที่จะสู่สันติภาพได้ แต่อาจต้องใช้เวลา และความจริงใจในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และเมื่อความเชื่อมั่น และความมั่นใจเกิดขึ้น ผู้ที่ก่อเหตุความรุนแรงคงไม่ปฏิเสธหนทางสันติที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

แต่ในระหว่างที่ใช้นโยบายช่วงรอมฎอนสันติสุข ทุกฝ่ายต้องระวังอย่าสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะอาจให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำไปกล่าวอ้าง จะทำให้เกิดประเด็นใหม่ และสร้างความขัดแย้งในความคิดอีก ในส่วนด้านการอำนวยการความสะดวกให้แก่ผู้เห็นต่างที่จะเดินทางกลับจากต่างประเทศ และเข้าประเทศไทยกลับบ้านเกิด และปลอดภัยนั้น คงเป็นขั้นตอนของกองทัพ แต่ขอฝากไปยังกองทัพ และรัฐบาลว่า หนทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่ฝังรากมานาน นอกจากใช้กำลัง 3 ฝ่ายแล้ว การเจรจาสันติภาพกับกลุ่มผู้เห็นต่างทั้งในและนอกประเทศ ยังเป็นทางเลือกที่สำคัญที่สุดที่จะยุติปัญหาความขัดแย้งของปัญหาในพื้นที่ ซึ่งต้องใช้ความอดทน ความจริงใจ และอาจต้องใช้ระยะเวลา
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น