นราธิวาส - แม่ทัพภาค 4 เยี่ยมชาวบ้าน อ.ตากใบ เหยื่อระเบิดพ่อลูก วอนกลุ่มผู้ก่อเหตุอย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์ และเด็ก สั่งเพิ่มกำลังไม่ประมาทช่วงครบรอบเหตุการณ์ 11 ปี กรือเซะ เผยในพื้นที่ยังคงมีความพยายามก่อเหตุต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 เม.ย.) ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย น.อ.นภดล ฐิตวัฒนะสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ และนายจำนัล เหมือนดำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เดินทางเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ นายกูอารีนัน รายอเง๊าะ ชาวบ้านในพื้นที่ตากใบ ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ม.3 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พร้อมบุตรอีก 3 คน ประกอบด้วย ด.ช.กูบัยฮากี รายอเง๊าะ ด.ญ.นาเดีย รายอเง๊าะ และ ด.ช.กูนาสาอี รายอเง๊าะ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ นายกูอารีนัน ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมุ่งหน้ากลับบ้านพร้อมกับลูกๆ หลังจากเดินทางไปเล่นน้ำทะเลที่บริเวณหาดเสด็จ โดยมาถึงระหว่างทางคนร้ายจุดชนวนระเบิดทำให้นายกูอารีนัน พร้อมลูกๆ ได้รับบาดเจ็บ
โดยการเข้าเยี่ยมครั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบกระเช้าเยี่ยม และเงินช่วยเหลือเยียวยาพร้อมพูดคุยให้กำลังใจ และสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งหาผู้ที่ก่อเหตุ พร้อมกันนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ย้ำทีมแพทย์ของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ให้จัดเจ้าหน้าที่เข้าพูดคุยกับลูกๆ ที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อเยียวยาด้านจิตใจ ซึ่งขณะนี้เองลูกๆ ทั้ง 3 คน ยังเสียขวัญต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวถึงกลุ่มก่อความไม่สงบว่าให้หยุดทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นมีแต่ด้านลบ โดยเฉพาะกับเด็ก ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต ไม่ควรที่จะให้เด็กได้รับบาดเจ็บด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยในช่วงวันครบรอบ 11 ปี เหตุการณ์กรือเซะ ว่า ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกพื้นที่เพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัย โดยไม่ประมาทในการปฏิบัติงานทุกครั้ง รวมถึงต้องคอยสังเกตสิ่งผิดปกติเพื่อป้องกันเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่า ในช่วงวันเชิงสัญลักษณ์ต่างๆ มักมีความพยามก่อเหตุความรุนแรงขึ้นในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เองต้องเพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยให้มาก โดยในช่วงนี้ภารกิจของเจ้าหน้าที่ลดลง เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมการดูแลความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่ทำได้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวอีกด้วยว่า ถึงแม้จะมีความพยายามก่อเหตุ แต่ภาพรวมจำนวนเหตุการณ์ในพื้นที่ลดลง โดยที่ผ่านมา ในทุกพื้นที่มีประชาชนหันมาให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่มากขึ้น ร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ตลอดจนมาร่วมปฏิบัติงานในการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งนั่นถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ทุกคนเดินหน้าหาความสันติสุขร่วมกัน