ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทหารเรือทัพเรือภาค 3 สนธิกำลังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่ดินหาดนุ้ย ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังชาวบ้านร้องเรียนถูกผู้มีอิทธิพลอ้างสิทธิ น.ส.3 เข้าครอบครองทำเป็นหาดส่วนตัวให้บริการนักท่องเที่ยวพร้อมปิดเส้นทางห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออก เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบ น.ส.3 ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จาก ส.ค.1 บวม สั่งรื้อถอนภายใน 7 วัน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (21 พ.ค.) กำลังทหารเรือจากทัพเรือภาค 3 นำโดย เรือเอกสมภพ คำคณา หัวหน้าชุดประสานงานประจำพื้นที่ ทหารเรือที่ 13 ทัพเรือภาค 3 พร้อมด้วยทหารเรือ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เช่น นายสุทธวัชร นาคสวาทดิ์ นิติกรชำนาญการสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต นายอภิชาต พิเชียรโสภณ นักวิชาการที่ดินชำนาญการพิเศษสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตฯ เข้าตรวจสอบพื้นที่อ่าวหาดนุ้ย ม.2 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
เพื่อตรวจสอบพื้นที่หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีชาวบ้านร้องเรียนมายังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ว่า มีกลุ่มบุคคลเข้าไปยึดครองอ่าวหาดนุ้ยเป็นหาดส่วนตัว และมีการเรียกเก็บค่าหัวในการเข้าไปบริเวณหาดดังกล่าว รวมทั้งยังมีการยิงปืนข่มขู่เมื่อมีประชาชน หรือเรือประมงเข้าไปจอดบริเวณดังกล่าวบ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพบพื้นที่ดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างจากถนนสายรอบเกาะภูเก็ต เข้าไปทางซอยแหลมมุมนอก ม.2 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ระยะทางประมาณ 4-5 กิโลเมตร เป็นถนนลูกรังคดเคี้ยว และลาดชัน บริเวณใกล้กับชายหาดมีอาคารสิ่งปลูกสร้างแบบชั่วคราวประมาณ 5 หลัง เพื่อต้อนรับผู้เข้าไปใช้บริการ และอาคารบริการอื่นๆ รวมถึงเต็นท์ เครื่องออกกำลังกาย โต๊ะ เก้าอี้บริการริมชายหาด นอกจากนี้ ยังมีเจ็ตสกีไว้บริการด้วย
เรือเอกสมภพ คำคณา กล่าวภายหลังการตรวจสอบพื้นที่ว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายพบว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวมี นายธนา โชติพนัง อ้างตัวเป็นเจ้าของที่ดิน โดยมีหลักฐานการครอบครองเป็น น.ส.3 จำนวน 18 ไร่ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ที่ดินแปลงนี้ถูกร้องเรียนให้มีการเพิกถอนสิทธิครอบครองเนื่องจากเอกสารสิทธิได้มามิชอบด้วยกฎหมาย และล่าสุด ทางศาลฎีกาตัดสินให้เพิกถอนสิทธิครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวแล้ว เนื่องจากการออก น.ส.3 มิชอบด้วยกฎหมาย เพราะมีการนำ ส.ค.1 จากแปลงอื่นมาสวมสิทธิ ที่ดินจึงต้องตกเป็นของปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต หรือ ส.ป.ก. ซึ่งการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในวันนี้ ได้ข้อสรุปว่า ภายใน 7 วันนี้ให้ ส.ป.ก.รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อยื่นไปยังเทศบาลตำบลกะรนติดประกาศให้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายใน 30 วัน หากเลยกำหนดแล้วยังไม่มีการรื้อถอนทางเจ้าหน้าที่ทหารจะร่วมกับเทศบาลตำบลกะรนเข้ารื้อถอนเอง เพื่อใช้ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ ปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตต่อไป
