ตรัง - เรือบรรทุกน้ำมันของสิงค์ปร์ ใช้ขนส่งสินค้าจากสิงคโปร์ไปพม่า เครื่องยนต์ขัดข้องกระแสน้ำพัดพาไปชนสะพานท่าปาบ อ.กันตัง ได้รับความเสียหาย จนต้องปิดเส้นทางชั่วคราว
วันนี้ ( 20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.มนตรี ไชยมล สารวัตรเวร สภ.กันตัง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ว่าเกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ฟาดกับสะพานท่าปาบ พื้นที่ ม.4 บ้านแหลมม่วง ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง ได้รับความเสียหาย จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบว่า ราวสะพานได้รับความเสียหายเป็นบางส่วน ช่วงกลางสะพานถูกท้ายเรือฟาดเคลื่อนเข้าไปประมาณ 50 เซนติเมตร ความยาวประมาณ 10 เมตร จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เจ้าหน้าที่ห้ามรถขนาดใหญ่ใช้สะพานดังกล่าว เพราะเกรงจะเกิดอันตราย
จากการสอบถาม จ.อ.อุทัย พลาศรี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 530/294 ม.1 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้ควบคุมเรือเผยว่า เรือลำดังกล่าวเป็นเรือแงเกอร์ บรรทุกน้ำมันดีเซล ขนาด 1,321 ตันกรอส เป็นเรือสัญชาติฮอนดูรัส ของบริษัทเอกชนที่ประเทศสิงคโปร์ใช้ขนส่งสินค้าจากสิงคโปร์ไปพม่า โดยเรือลำดังกล่าวนี้เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ต เพื่อนำมาซ่อมที่อู่ซ่อมเรือ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.สิเหร่การช่าง จำกัด แอนด์ เซอร์วิส แต่ยังไม่ทันได้ส่งมอบต่อทางบริษัทซ่อมก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน
จ.อ.อุทัย เผยต่อว่า ขณะที่กำลังกลับหัวเรือเพื่อเทียบท่าใกล้กับสะพาน เกิดเหตุขัดข้องทางเครื่องยนต์ทำให้ไม่สามารถบังคับเรือได้ โดยในขณะนั้นเป็นช่วงน้ำขึ้น ประกอบกับลมแรง กระแสน้ำได้พัดเรือให้เข้าไปใกล้กับตัวสะพาน และเนื่องจากเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่สามารถทอดสมอได้ทัน จนทำให้ท้ายเรือฟาดเข้ากับกลางสะพานจนได้รับความเสียหายดังกล่าว
ด้าน นายสมปอง มณีรัตน์ ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอกันตัง ได้ลงไปดูในที่เกิดเหตุ โดยเผยว่า ได้รับรายงานประมาณช่วงบ่ายสองโมงที่ผ่านมา ว่า มีเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่เกิดเหตุขัดข้องทางเครื่องยนต์ไม่สามารถควบคุมได้เกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับตัวสะพานท่าปาบได้รับความเสียหายบางส่วน โดยขณะนี้ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อบต.บ่อน้ำร้อน ซึ่งอยู่อีกฝั่งของสะพาน ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่มาปิดถนนเป็นการชั่วคราว และไม่อนุญาตให้รถขนาดใหญ่วิ่งผ่านเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากสะพานเกิดการชำรุด ต้องมีการซ่อมแซม โดยได้ประสานไปยัง อบจ.ตรัง ซึ่งเป็นเจ้าของผู้รับผิดชอบให้มาดำเนินการแล้ว
นายสมปอง กล่าวต่อว่า ขณะที่ต้องปิดเส้นทางจราจรในเส้นทางนี้ แนะนำให้ผู้ใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นก่อน โดยการใช้บริการของแพขนานยนต์ ซึ่งจะมีการประสานไปยัง นายสรนนท์ จิโรจน์มนตรี นายกเทศมนตรีเมืองกันตัง ให้ขยายเวลาในการให้บริการแพขนานยนต์ หรือประชาชนจะเลี่ยงไปใช้สะพานหน้าวัดย่านซื่อ ซึ่งห่างออกไปจากสะพานท่าปาบประมาณ 5 กิโลเมตร เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในช่วงที่ทาง อบจ.ตรัง ต้องเข้ามาตรวจสอบโครงสร้างและดำเนินการซ่อมแซมตัวสะพานที่ชำรุดไป
ขณะที่ นางนิตยา นุ้ยเอียด นิติกร อบจ.ตรัง ซึ่งเป็นตัวแทนของ อบจ.ตรัง ได้เข้าแจ้งความเพื่อเรียกค่าเสียหายต่อทางบริษัทต้นสังกัดของเรือลำดังกล่าว โดยจะมีการประเมินค่าเสียหายอีกครั้งหนึ่ง
