กระบี่ - ผู้ปกครองเด็กพิเศษในพื้นที่อำเภออ่าวลึก จ.กระบี่ โวยอำเภอมั่ว รายชื่อโผล่เป็นผู้เกี่ยวข้องยาเสพติด ต้องนำตัวเข้าค่ายบำบัด ขณะที่ปลัดอำเภอแจงได้รับข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ให้ข้อมูล โดยไม่ทราบว่าเด็กรายดังกล่าวเป็นเด็กพิเศษ
วันนี้ (19 พ.ค.) นายหิรัญ (นามสมมติ) อาชีพทำสวน อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของนายกร (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจากอำเภออ่าวลึก ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 58 เพื่อขอให้นำ นายกร เข้าค่ายเยาวชนอ่าวลึกพลังใหม่ หรือที่รู้จักกันในนามเข้าค่ายบำบัดยาเสพติด โดยมีเนื้อหาว่า ตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 108/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เรื่องการปฎิบัติต่อผู้สงสัยว่ากระทำผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟู
อำเภออ่าวลึก ได้จัดทำโครงการเข้าค่ายเยาวชนอ่าวลึกพลังใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2558 ได้กำหนดฝึกอบรมให้ความรู้แก่เยาวชนกลุ่มเสี่ยงขึ้น ในระหว่างวันที่ 1 พ.ค.2557-1 มิ.ย.2558 ณ ศาลาประชาคมอำเภออ่าวลึก ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภออ่าวลึก จึงขอให้ท่านนำ นายกร เข้ารับการฝึกอบรมตามโครงการดังกล่าว โดยให้ไปรายงานตัวพร้อมเตรียมสัมภาระของใช้ส่วนตัว และอื่นๆ ที่จำเป็นในการเข้าค่ายฝึกอบรมในวันจันทร์ 18 พฤษภาคม 58 ณ กองร้อย อส.อ.อ่าวลึก ที่ 7 ลงชื่อ นางนันทิชา เกิดแก้ว ปลัดอำเภอ (จพง.ปค.ชำนาญการ) รักษาราชการแทนนายอำเภออ่าวลึก
นายหิรัญ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้รับหนังสือดังกล่าวรู้สึกตกใจมาก เพราะนายกร เป็นเด็กพิเศษ หรือเด็กออทิสติก ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่กลับมีชื่อเป็นผู้ติดยาเสพติด เข้าข่ายต้องนำเข้าค่ายบำบัดยาเสพติดด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ทำเพียงแค่ให้พ้นไปวันๆ ไม่ได้มีการตรวจตรวจข้อมูล และข้อเท็จจริงกันอย่างจริงจัง ซึ่งตนรู้สึกข้องใจ และละอายใจแทนข้าราชการไทยเป็นอย่างมาก ที่ทำเรื่องดังกล่าวโดยไม่ได้มีการตรวจสอบ แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็จะทำตามหน้าที่ เมื่อทางราชการส่งหนังสือมาก็จะพาเด็กไปรายงานตัวเพราะกลัวความผิด
ด้าน นางนันทิชา เกิดแก้ว ปลัดอำเภอ (จพง.ปค.ชำนาญการ) รักษาราชการแทนนายอำเภอ กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดของสายที่แจ้งชื่อเข้ามาให้แก่ทางอำเภอ หลังจากนั้น ทางอำเภอได้ส่งหนังสือไปยังผู้ปกครองเพื่อขอให้มาประชุม ก่อนนำเด็กเข้าค่าย โดยผ่านทางผู้ใหญ่บ้าน แต่ผู้ปกครองไม่ได้มาประชุมตามนัด จึงทำให้ทางอำเภอไม่สามารถทราบได้ว่าเด็กเป็นคนอย่างไร ประกอบกับทางผู้ใหญ่บ้านเอง ก็ไม่ได้แจ้งลักษณะของเด็กให้ทางอำเภอทราบ ทางอำเภอจึงได้ส่งหนังสือยืนยันให้นำเด็กมาเข้าค่ายฯ แต่เมื่อตรวจพบว่าเด็กเป็นเด็กพิเศษ และไม่ยุงเกี่ยวกับยาเสพติดก็ได้ให้กลับบ้านไป ในเบื้องต้น ได้ขอโทษด้วยวาจาต่อทางผู้ปกครองไปแล้วถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
สำหรับการเปิดค่ายเยาวชนอ่าวลึกพลังใหม่ เพื่อต้องการนำเด็กที่ติดยาเสพติดมาทำการบำบัด และฝึกอาชีพระยะสั้นให้ ประมาณ 15 วัน เมื่อเด็กกลับออกไปจากค่ายก็จะได้มีความรู้ติดตัวสามารถที่จะไปประกอบอาชีพได้ และก็จะมีการติดตามพฤติกรรมตลอด ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้เด็กเป็นคนดีของชาติ และสังคมอย่างแท้จริง
วันนี้ (19 พ.ค.) นายหิรัญ (นามสมมติ) อาชีพทำสวน อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของนายกร (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจากอำเภออ่าวลึก ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 58 เพื่อขอให้นำ นายกร เข้าค่ายเยาวชนอ่าวลึกพลังใหม่ หรือที่รู้จักกันในนามเข้าค่ายบำบัดยาเสพติด โดยมีเนื้อหาว่า ตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 108/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เรื่องการปฎิบัติต่อผู้สงสัยว่ากระทำผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟู
อำเภออ่าวลึก ได้จัดทำโครงการเข้าค่ายเยาวชนอ่าวลึกพลังใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2558 ได้กำหนดฝึกอบรมให้ความรู้แก่เยาวชนกลุ่มเสี่ยงขึ้น ในระหว่างวันที่ 1 พ.ค.2557-1 มิ.ย.2558 ณ ศาลาประชาคมอำเภออ่าวลึก ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภออ่าวลึก จึงขอให้ท่านนำ นายกร เข้ารับการฝึกอบรมตามโครงการดังกล่าว โดยให้ไปรายงานตัวพร้อมเตรียมสัมภาระของใช้ส่วนตัว และอื่นๆ ที่จำเป็นในการเข้าค่ายฝึกอบรมในวันจันทร์ 18 พฤษภาคม 58 ณ กองร้อย อส.อ.อ่าวลึก ที่ 7 ลงชื่อ นางนันทิชา เกิดแก้ว ปลัดอำเภอ (จพง.ปค.ชำนาญการ) รักษาราชการแทนนายอำเภออ่าวลึก
นายหิรัญ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้รับหนังสือดังกล่าวรู้สึกตกใจมาก เพราะนายกร เป็นเด็กพิเศษ หรือเด็กออทิสติก ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่กลับมีชื่อเป็นผู้ติดยาเสพติด เข้าข่ายต้องนำเข้าค่ายบำบัดยาเสพติดด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ทำเพียงแค่ให้พ้นไปวันๆ ไม่ได้มีการตรวจตรวจข้อมูล และข้อเท็จจริงกันอย่างจริงจัง ซึ่งตนรู้สึกข้องใจ และละอายใจแทนข้าราชการไทยเป็นอย่างมาก ที่ทำเรื่องดังกล่าวโดยไม่ได้มีการตรวจสอบ แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็จะทำตามหน้าที่ เมื่อทางราชการส่งหนังสือมาก็จะพาเด็กไปรายงานตัวเพราะกลัวความผิด
ด้าน นางนันทิชา เกิดแก้ว ปลัดอำเภอ (จพง.ปค.ชำนาญการ) รักษาราชการแทนนายอำเภอ กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดของสายที่แจ้งชื่อเข้ามาให้แก่ทางอำเภอ หลังจากนั้น ทางอำเภอได้ส่งหนังสือไปยังผู้ปกครองเพื่อขอให้มาประชุม ก่อนนำเด็กเข้าค่าย โดยผ่านทางผู้ใหญ่บ้าน แต่ผู้ปกครองไม่ได้มาประชุมตามนัด จึงทำให้ทางอำเภอไม่สามารถทราบได้ว่าเด็กเป็นคนอย่างไร ประกอบกับทางผู้ใหญ่บ้านเอง ก็ไม่ได้แจ้งลักษณะของเด็กให้ทางอำเภอทราบ ทางอำเภอจึงได้ส่งหนังสือยืนยันให้นำเด็กมาเข้าค่ายฯ แต่เมื่อตรวจพบว่าเด็กเป็นเด็กพิเศษ และไม่ยุงเกี่ยวกับยาเสพติดก็ได้ให้กลับบ้านไป ในเบื้องต้น ได้ขอโทษด้วยวาจาต่อทางผู้ปกครองไปแล้วถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
สำหรับการเปิดค่ายเยาวชนอ่าวลึกพลังใหม่ เพื่อต้องการนำเด็กที่ติดยาเสพติดมาทำการบำบัด และฝึกอาชีพระยะสั้นให้ ประมาณ 15 วัน เมื่อเด็กกลับออกไปจากค่ายก็จะได้มีความรู้ติดตัวสามารถที่จะไปประกอบอาชีพได้ และก็จะมีการติดตามพฤติกรรมตลอด ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้เด็กเป็นคนดีของชาติ และสังคมอย่างแท้จริง
