ชมรมผู้ประกอบการค้าอาหาร ร่วมกับเทศบาลนครภูเก็ต จัดงาน “เทศกาลอาหารอร่อยนครภูเก็ต ครั้งที่ 17” ส่งเสริมการท่องเที่ยวเขตเมือง นำหลากหลายเมนูเด็ด 72 บูท ไม่ซ้ำกัน ทั้งอาหารท้องถิ่น อาหารไทย อาหารยุโรป มาจัดแสดงและจำหน่าย ระหว่างวันที่ 22-28 พ.ค.นี้ ณ เวทีกลางสะพานหิน พร้อมรณรงค์ผู้ประกอบการไม่ใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ทำจากโฟมไม่ย่อยสลายภายในงาน เพื่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมที่ดีของคนภูเก็ต
น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นางวิภาดา ธีรนิตยภาพ ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าอาหาร และ น.ส.พรรธน์รวี จิตตาปัญญานุกูล เลขานุการชมรมผู้ประกอบการค้าอาหาร ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน “เทศกาลอาหารอร่อยนครภูเก็ต ครั้งที่ 17” มีคณะสื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมการแถลงข่าว และร่วมชิมชมการสาธิตการทำส้มตำผลไม้ต้นทานตะวันอ่อน ยำสมุนไพรสูตรโบราณทางภาคกลาง และร่วมชิมไก่ดำตุ๋นเห็ดถั่งเฉ้า แกงส้มท้องปลากะพง ยำปลาอยากรู้ ข้าวยำทางเลือก และหมูย่างใบชะพลู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลากหลายเมนูเด็ดที่จะมีการนำเสนอ และจำหน่ายภายในงานเทศกาลอาหารอร่อยนครภูเก็ต ครั้งที่ 17 ณ บริเวณเวทีกลางสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 22-28 พฤษภาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น.
น.ส.สมใจ สุวรรณ นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวให้การสนับสนุนการจัดงานเทศกาลอาหารอร่อยนครภูเก็ต ซึ่งได้ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด และในปีนี้ที่สำคัญคือ เราได้เข้าไปผลักดันในส่วนของการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ใช้วัสดุ หรือภาชนะแทนจาน หรือแก้วที่ย่อยสลายได้ ด้วยในเรื่องของอาหารการกิน ซึ่งในแต่ละวันจะมีการจับจ่ายใช้สอยในเรื่องอาหารการกินจำนวนมาก ประกอบกับปัจจุบัน สังคมของเราจะสะดวกในเรื่องของโฟม หรือถุงพลาสติกสำหรับใช้ใส่อาหาร ซึ่งเป็นวัสดุที่ไม่ย่อยสลาย ถ้าเรากลับมาดูในเรื่องของสุขภาพ มะเร็งมาเป็นอันดับหนึ่ง ฉะนั้นนอกเหนือจากเรื่องความเครียดแล้ว ในเรื่องของอาหารก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคร้ายดังกล่าว
เพราะฉะนั้น ในการจัดงานปีนี้จากการพูดคุยกับทางชมรมผู้ประกอบการค้าอาหาร เราจะร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันรณรงค์ให้มีการใช้ภาชนะในการบรรจุอาหารที่สามารถย่อยสลายได้ นี่คือสิ่งที่ได้มีความตระหนักที่เกิดขึ้น วันนี้ถึงแม้จะเป็นแค่การเริ่มต้น อาจจะเริ่มต้นช้าไปหน่อย แต่ไม่เป็นไรเพราะเราทำเพื่อลูกหลานที่จะรับช่วงต่อสิ่งดีๆ จากเราต่อไป เพื่อให้เมืองของเรามีความดีทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ดี น.ส.สมใจ กล่าวในที่สุด
ขณะที่ นางวิภาดา กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการอำนวยสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกชมรมฯ ในการกระตุ้นยอดขาย และประชาสัมพันธ์ร้านค้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเขตเมืองของนครภูเก็ต เพื่อสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการกระจายรายได้ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้เห็น ได้ลิ้มลองของดี และของอร่อยของจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกฯ กับชมรมฯ และระหว่างสมาชิกฯ ด้วยกัน และนอกจากนี้ เพื่อหารายได้สนับสนุนการดำเนินงานกิจกรรมของชมรมฯ เพื่อจัดหารายได้ส่วนหนึ่งมอบให้แก่สถานสงเคราะห์คนชรา ป่าคลอก โดยนำอาหารขึ้นชื่อจากโรงแรมดังในเขตนครภูเก็ต มาจำหน่ายโรงแรมละ 1 คืน
ด้าน น.ส.พรรธน์รวี กล่าวเพิ่มเติมว่า เทศกาลอาหารอร่อยเทศบาลนครภูเก็ตนั้น เป็นกิจกรรมประจำปีที่สำคัญกิจกรรมหนึ่ง ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้สมาชิกชมรมฯ ได้มีโอกาสจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มให้แก่นักท่องเที่ยว คนท้องถิ่น และผู้สนใจทั่วไป ซึ่งนักท่องเที่ยวเองจะได้ลิ้มรสอาหารท้องถิ่นที่ลือชื่อ และอาหารหลากหลายรูปแบบในสถานที่เดียวกัน คนท้องถิ่น และผู้สนใจทั่วไปก็จะได้อาหารอร่อย ราคาถูก และมีให้เลือกมากมาย ที่สำคัญเป็นการส่งเสริมท่องเที่ยวเขตเมือง ซึ่งเป็นการประสานความต้องการของทุกฝ่ายไว้ด้วยกันเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เนื่องในโอกาสครบรอบก่อตั้งผู้ประกอบการค้าอาหารจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้ก่อตั้งเมื่อ 28 พฤษภาคม 2536 รวมเป็นระยะเวลากว่า 22 ปีแล้ว ในการจัดงานปีนี้ทางชมรมฯ จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมในระหว่างงานเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบก่อตั้ง 22 ปี พร้อมจัดทำหนังสือครบรอบ 22 ปีการก่อตั้งชมรมฯ การจำหน่ายอาหารขึ้นชื่อของโรงแรมต่างๆ ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต โรงแรมละ 1 คืน จำหน่ายอาหารขึ้นชื่อของร้านอาหารต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดในราคาถูก จำหน่ายอาหารซีฟูด บาร์บีคิว อาหารสมุนไพร อาหารท้องถิ่น อาหารไทย อาหารฝรั่ง และอาหารขึ้นชื่อของภูเก็ต การแสดงของวงดนตรีระดับประเทศ ผับ และวงดนตรีนักเรียน นักศึกษาในภูเก็ต และการเล่มเกมชิงรางวัล
โดยในส่วนของการจำหน่ายอาหารซึ่งมีจำนวน 72 บูท นั้น ปีนี้เราได้ร้านค้าร้านอาหารที่ไม่เคยออกบูทมาก่อนมาร่วมออกบูทกับเราภายในงานนี้จำนวนมากด้วย เช่น จากร้านแบล็คแอนด์เลิฟ ร้านขนมพระนาย บ้านกระทะทอง เป็นต้น และเมนูอาหารแต่ละบูทก็จะไม่ซ้ำกัน และนอกเหนือจากการจำหน่ายอาหารแล้ว ภายในงานแล้วยังมีการจำหน่ายของฝาก สินค้าโอทอป เต็มลานสะพานหินด้วย มีที่นั่งรองรับผู้เข้าร่วมงาน จำนวน 1,600 ที่นั่ง ซึ่งเราคาดหวังการจัดงานครั้งนี้ว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 100,000 คน มีรายได้จากการจำหน่ายอาหารประมาณ 5-10 ล้านบาท
นอกจากนี้ น.ส.พรรธน์รวี กล่าวต่อไปว่า นอกจากในเรื่องของความหลากหลายของเมนูอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว การจัดงานปีนี้เราตระหนักในเรื่องของสิ่งแวดล้อม โดยรณรงค์ให้ผู้ประกอบการใช้ภาชนะสำหรับบรรจุอาหารที่ไม่ทำจากโฟมซึ่งไม่ย่อยสลาย และรณรงค์ให้มีการคัดแยกขยะอินทรีย์ภายในงานด้วย โดยขยะในบูทของผู้ประกอบการนั้น ทางผู้ประกอบการจะเป็นผู้คัดแยกเอง ส่วนบริเวณสถานที่จัดงานเราจะมีเจ้าหน้าที่คอยคัดแยกให้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรณรงค์ และปลุกจิตสำนึกในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สังคมเรามีสิ่งแวดล้อมที่ดีน่าอยู่ตลอดไป