ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสงขลา จัดโครงการคนไทยหัวใจเดียวกัน เผยแก้ปัญหาหยุดความรุนแรงของ “ไฟใต้” ต้องทำให้ศาสนาเข้มแข็ง สร้างความเท่าเทียม และลดเงื่อนไข ความขัดแย้ง
วันนี้ (1 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมเพ็ชรมีรีสอร์ส อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสงขลา (กอ.รมน.) ได้จัดกิจกรรมโครงการคนไทยหัวใจเดียวกัน โดยเชิญประชาชนในพื้นที่ อ.เทพา และ อ.สบ้าย้อย จ.สงขลา จำนวน 200 คน เพื่อรับฟังความคิดเห็นในประเด็นปัญหาด้านความมั่นคง และการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังถ่านหินใน ต.ปากบาง อ.เทพา โดยมีวิทยากร จากองค์กรบริหารส่วนจังหวัด,ศูนย์สันติสุข กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และตัวแทนสื่อมวลชน บรรยายในหัวข้อเรื่อง “การสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ” โดยมี นายสมโภชน์ โชติชูช่วง นายอำเภอเทพา เป็นประธานในการเปิดการสัมมนา
โดย นายสมโภชน์ ได้กล่าวถึงความแตกแยกของคนในประเทศที่เกิดจากนักการเมืองที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ในเรื่องต่างๆ เช่น โครงการรับจำนำข้าว และโครงการอื่นๆ รวมทั้งค่านิยมของคนที่เปลี่ยนไป เช่น โกงบ้างก็ไม่เป็นไร ขอให้มีผลงาน หรือไม่มีผลงานก็ไม่เป็นไร ขอให้ตนเองได้รับประโยชน์ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้กลายเป็นปัญหาของประเทศชาติ และได้กล่าวถึงความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทำให้ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลาได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการใช้การบิดเบือนคำสอนของศาสนามาเป็นเครื่องมือในการก่อการร้าย เช่น การฆ่าคน การก่อเหตุความรุนแรงไม่ผิด ซึ่งไม่มีศาสนาไหนบัญญัติไว้
ในขณะที่ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล วิทยากร นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย วิทยากรที่เป็นตัวแทนสื่อมวลชน ได้กล่าวถึงความไม่สงบในพื้นที่ว่า ทั้งคนในพื้นที่ที่ “เห็นต่าง” และประชาชนส่วนใหญ่ยังมองว่า “รากเหง้า” ของสงครามประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาจากเรื่องความไม่เป็นธรรม และความไม่เท่าเทียมในหลายด้าน ที่ยังเป็นเรื่องของ ความรู้สึกมากกว่าเป็นข้อเท็จจริง เพราะ 20 กว่าปีที่ผ่านมา หลายรัฐบาลหลายหน่วยงาน ทั้ง ศอ.บต. และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ทำการแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรม และความไม่เท่าเทียม อย่างเต็มความสามารถ
ในขณะที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายยังใช้เรื่องคำสอนของศาสนา ด้วยการบิดเบือน และนำเอาเรื่องของ ชาติพันธ์ และประวัติศาสตร์เป็นเครื่องมือในการบ่มเพาะ เพื่อสร้างมวลชนให้เห็นต่างจากรัฐ ซึ่งในเรื่องดังกล่าวยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ยังแก้ไม่ตก เพราะเมื่อพูดถึงเรื่องศาสนาทุกฝ่ายจะรีบปฏิเสธว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับศาสนา และเห็นว่าเรื่องศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างไปแตะต้อง ทั้งที่ปัญหาหลายอย่างเกิดจากการบิดเบือนหลักคำสอนของศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้นำศาสนาต้องสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในชุมชนต่างๆ เพื่อให้มีความเข้มแข็ง ไม่ใช่มีความเคร่งครัดอย่างเดียว
และในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่รัฐต้องไม่สร้างเงื่อนไข อย่างเช่นการวิสามัญประชาชน 4 ศพที่ทุ่งยางแดง ที่กลายเป็นเงื่อนไขให้ฝ่ายตรงข้ามใช้เป็นเครื่องมือในการตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐด้วยการฆ่าเป้าหมายอ่อนแอ ซึ่งล่าสุด พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีนโยบายที่ชัดเจนว่า ในการปิดล้อม ตรวจค้น จับกุมทุกครั้ง ผู้ที่ตัดสินใจในการสั่งการมีเพียง 2 คน คือ แม่ทัพภาคที่ 4 และ พล.ต.มณี จันทร์ทิพย์ รองแม่ทัพ ที่เป็นผู้รับผิดชอบ โดย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า หวังว่า 4 ศพ ที่ทุ่งยางแดง จะเป็นความผิดพลาดครั้งสุดท้ายของเจ้าหน้าที่
