ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เบิกเงินจากธนาคาร 2 แสน นำไปซื้อทองแท่ง 10 บาท หลังซื้อเสร็จร้านทองบอกมีเงินปลอม 1,000 บาท เจ้าของเงินแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ตำรวจตรวจสอบที่ธนาคารที่เบิกมา เจ้าหน้าที่ธนาคารยอมรับเกิดความผิดพลาดยอมชดใช้เงินให้ และฝากเตือนประชาชนในการตรวจสอบแบงก์ปลอม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (27 เม.ย.) ร.ต.ต.ชาตรี เวชรังสี รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งจากเจ้าของร้านทองทิพย์ 2 สาขาถนนพังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า มีคนนำธนบัตรปลอมใบละ 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ มาซื้อทอง ขอให้เดินทางมาตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านทองดังกล่าว พบพนักงาน และเจ้าของร้านกำลังสอบถาม นายวีระชัย อภิชาตตระกูล อายุ 36 ปี อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว ที่นำเงินสด จำนวน 183,500 บาท ไปซื้อทองคำแท่งน้ำหนัก 10 บาท และมีธนบัตรปลอมใบละ 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ ปะปนไปด้วย ซึ่ง นายวีระชัย อ้างว่าเ งินจำนวนดังกล่าวได้เบิกมาจากธนาคารกสิกรไทย สาขาเทพกระษัตรี (ควนดินแดง) ต.รัษฎา และนำมาซื้อทองแท่งดังกล่าว โดยไม่รู้ว่าจะมีเงินปลอมปะปนมาด้วย และพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจในการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ธนาคาร
ขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบนั้น มีนายวีระชัย เดินทางไปด้วย ภายในธนาคารเห็นมีประชาชนมาฝาก-ถอนเงินสดจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบกับ น.ส.นิจนภา คล่องกิจ ผู้ช่วยผู้จัดการสาขาด้านการดูแลลูกค้า ธนาคารธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเทพกระษัตรี (ควนดินแดง) ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต และพบว่า นายวีระชัย ได้เดินทางมาเบิกเงินสดที่ธนาคารจริง จำนวนเงินสด 200,000 บาท และเจ้าหน้าที่ธนาคารรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และยอมชดใช้เงิน จำนวน 1,000 บาท ให้แก่ นายวีระชัย และนายวีระชัย ไม่ติดใจเอาความต่อธนาคาร ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน
จากการสอบถาม นายวีระชัย อภิชาตตระกูล อายุ 36 ปี กล่าวว่า ตนเป็นลูกค้าประจำของธนาคารกสิกรไทย มีการเบิก-ถอนเงินสดอยู่เป็นประจำ ส่วนใหญ่จะเบิกเพื่อไปซื้อทองแท่ง เพราะตนเป็นคนชอบซื้อทองคำมาแก็งกำไร โดยวันนี้ตนได้เดินทางมาเบิกเงินสดที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเทพกระษัตรี (ควนดินแดง) ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวน 200,000 บาท เพื่อเงินไปซื้อทองคำแท่งน้ำหนัก จำนวน 10 บาท ที่ร้านทองทิพย์ สาขา ถ.พังงา มูลค่า 183,500 บาท หลังจากที่ซื้อเสร็จแล้วตนเดินทางกลับบ้าน ระหว่างนั้นได้มีพนักงานขายของร้านทองโทร.มาบอกว่า เงินสดที่ให้แก่ทางร้านมีธนบัตรปลอมใบละ1,000 บาท จำนวน 1 ใบ ตนเองจึงเดินทางกลับไปยังที่ร้านทองดังกล่าวทันที ในระหว่างนั้นก็มีการทำความเข้าใจ และบอกว่าเงินที่นำมาซื้อนั้นเป็นเงินที่เบิกมาจากธนาคารกสิกรไทย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาตรวจสอบ ตนแสดงความบริสุทธิ์ใจ นำตำรวจมาตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ธนาคารทันที จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยืนยันว่า ตนได้ถอนเงินจำนวน 200,000 บาท จากธนาคารจริง และต่อมาเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดที่ธนาคาร ที่มีการรับฝากเงินสดแล้วไม่ได้มีการตรวจสอบว่ามีเงินปลอมปะปนอยู่หรือไม่ เจ้าหน้าที่ธนาคารยอมรับความผิดพลาด และชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวให้แก่ตน ซึ่งตนไม่ติดใจเอาความต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร แต่อยากจะให้เกิดความรอบคอบในการรับฝากเงินมากกว่านี้ หากเกิดความผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มาฝากเงินได้
ด้าน น.ส.นิจนภา คล่องกิจ ผู้ช่วยผู้จัดการสาขาด้านการดูแลลูกค้าธนาคารธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเทพกระษัตรี (ควนดินแดง) กล่าวว่า ตนเองได้สอบถามพนักงานเคาน์เตอร์เบิก-ถอนเงิน บอกว่า ในช่วงเวลา 08.30 น. วันนี้ ได้มีลูกค้านำเงินมาฝาก จำนวน 200,000 บาท แล้วทางพนักงานได้ตรวจนับเงินครบ 200,000 บาท แล้วได้เก็บไว้ในลิ้นชัก จากนั้นได้มีนายวีระชัย ได้เดินทางมาถอนเงิน จำนวน 200,000 บาท แล้วทางพนักงานได้นำเงินที่ลูกค้ามาฝากก่อนหน้านี้มาให้แก่นายวีระชัย จากนั้นนายวีระชัย ได้เดินออกจากธนาคารไป ทางพนักงานก็ไม่คิดว่าจะมีธนบัตรปลอม และพอมาทราบว่าในธนบัตร จำนวน 200,000 บาท มีธนบัตรปลอม จำนวน 1 ใบ แต่ทางธนาคารยินยอมชดใช้ให้ และอยากฝากถึงประชาชน และร้านค้าต่างๆ ให้สังเกตที่ตัวเลข 1,000 บาท ที่มุมขวาเวลาจับจะเป็นตัวนูน และจะเห็นเงาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ถ้าทั้ง 2 อย่างไม่ปรากฏแสดงว่า เป็นธนบัตรปลอม โดยที่ธนาคารเคยพบลักษณะนี้มาแล้ 1 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 จึงอยากฝากเตือนประชาชนด้วย