พังงา - คนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองบุกฆ่าโหดผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านชื่อดังในอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา เสียชีวิตจมกองเลือดต่อหน้าภรรยา ขณะขับรถเข้าบ้านมารับภรรยาไปขึ้นบ้านใหม่เพื่อน
เมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สราวุธ สูงสง่า พนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายที่ซอยแป๊ะหย่าง หมู่ที่1 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า พ.ต.อ.กฤตภาส เดชอินทรศร ผกก.สภ.ตะกั่วป่า พ.ต.ต.ประเทือง ช้างสุวรรณ สว.สส. พ.ต.ท.อัครเดช ศุกระกาญจน์ สวป. ร.ต.ท.มลฆล ใจรังสี รอง สวป. และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเมฆาตะกั่วป่า ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบศพ นายวินัย ศิรินุพงศ์ หรือเสือ อายุ 53 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อยู่บ้านเลขที่ 1/7 หมู่ที่ 1 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง จำนวน 1 นัด เข้าที่ใบหน้า และร่างกายจนเป็นรูพรุนรวม 6 แผล นอนหงายหน้าบนพื้นดินหน้าบ้าน และอยู่ข้างรถยนต์ที่จอดอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมฆาตะกั่วป่า ได้นำศพผู้เสียชีวิตไปให้แพทย์ รพ.ตะกั่วป่า ตรวจชันสูตร และผ่าหัวกระสุนออกจากร่างกายเพื่อเป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ได้เชิญตัวนางยุคล ศิรินุพงศ์ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตายไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย นายวินัย สามีได้ขับรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านเพื่อจะมารับตนไปร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อน และเมื่อสามีจอดรถหน้าบ้าน สามีได้เดินลงมายืนข้างรถ และตนได้ตะโกนถามสามีว่า จะเข้าบ้านไหม ทางสามีบอกไม่เข้าแล้ว ทันใดนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทำให้สามีร้องดังว่าถูกยิงให้ช่วยด้วย และก็ล้มลงตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้ลูกสาวที่ออกไปข้างนอกบ้านทราบ พร้อมแจ้งตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ช่วยสกัดคนร้ายแต่ด้วยความมืด ทำให้คนร้ายไหวตัวหนีอย่างรวดเร็วไม่แน่ใจว่ามากันจำนวนกี่คนและใช่รถอะไร
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุการสังหารโหดผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.บางนายสี ในครั้งนี้น่าจะเป็นเรื่องการขัดผลประโยชน์ในกลุ่มเครือญาติเรื่องที่ดินมรดกของ นายปลิว ศิรินุพงศ์ บิดา หลังจากบิดาเพิ่งเสียชีวิตเมื่อเดือนกว่าที่ผ่านมา และทรัพย์สินเงินฝาก จำนวน 7 แสนบาท และมีการทะเลาะกันในกลุ่มพี่น้องบ่อยครั้ง และในวันที่ 25 เมษายนนี้ ผู้ตาย และญาติๆ จะต้องเดินทางเข้ายื่นต่อศาลตะกั่วป่า เพื่อยื่นคำร้องแต่งตั้งผู้ดูแลมรดกของบิดา แต่มาถูกลอบสังหารเสียก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานพร้อมนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำเพื่อจับตัวมือปืนที่ฆ่านายวินัย ผู้ตายอย่างโหดเหี้ยมมาลงโทษต่อไป
เมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สราวุธ สูงสง่า พนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายที่ซอยแป๊ะหย่าง หมู่ที่1 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า พ.ต.อ.กฤตภาส เดชอินทรศร ผกก.สภ.ตะกั่วป่า พ.ต.ต.ประเทือง ช้างสุวรรณ สว.สส. พ.ต.ท.อัครเดช ศุกระกาญจน์ สวป. ร.ต.ท.มลฆล ใจรังสี รอง สวป. และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเมฆาตะกั่วป่า ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบศพ นายวินัย ศิรินุพงศ์ หรือเสือ อายุ 53 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อยู่บ้านเลขที่ 1/7 หมู่ที่ 1 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง จำนวน 1 นัด เข้าที่ใบหน้า และร่างกายจนเป็นรูพรุนรวม 6 แผล นอนหงายหน้าบนพื้นดินหน้าบ้าน และอยู่ข้างรถยนต์ที่จอดอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมฆาตะกั่วป่า ได้นำศพผู้เสียชีวิตไปให้แพทย์ รพ.ตะกั่วป่า ตรวจชันสูตร และผ่าหัวกระสุนออกจากร่างกายเพื่อเป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ได้เชิญตัวนางยุคล ศิรินุพงศ์ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตายไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย นายวินัย สามีได้ขับรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านเพื่อจะมารับตนไปร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ของเพื่อน และเมื่อสามีจอดรถหน้าบ้าน สามีได้เดินลงมายืนข้างรถ และตนได้ตะโกนถามสามีว่า จะเข้าบ้านไหม ทางสามีบอกไม่เข้าแล้ว ทันใดนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทำให้สามีร้องดังว่าถูกยิงให้ช่วยด้วย และก็ล้มลงตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้ลูกสาวที่ออกไปข้างนอกบ้านทราบ พร้อมแจ้งตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ช่วยสกัดคนร้ายแต่ด้วยความมืด ทำให้คนร้ายไหวตัวหนีอย่างรวดเร็วไม่แน่ใจว่ามากันจำนวนกี่คนและใช่รถอะไร
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุการสังหารโหดผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.บางนายสี ในครั้งนี้น่าจะเป็นเรื่องการขัดผลประโยชน์ในกลุ่มเครือญาติเรื่องที่ดินมรดกของ นายปลิว ศิรินุพงศ์ บิดา หลังจากบิดาเพิ่งเสียชีวิตเมื่อเดือนกว่าที่ผ่านมา และทรัพย์สินเงินฝาก จำนวน 7 แสนบาท และมีการทะเลาะกันในกลุ่มพี่น้องบ่อยครั้ง และในวันที่ 25 เมษายนนี้ ผู้ตาย และญาติๆ จะต้องเดินทางเข้ายื่นต่อศาลตะกั่วป่า เพื่อยื่นคำร้องแต่งตั้งผู้ดูแลมรดกของบิดา แต่มาถูกลอบสังหารเสียก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานพร้อมนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำเพื่อจับตัวมือปืนที่ฆ่านายวินัย ผู้ตายอย่างโหดเหี้ยมมาลงโทษต่อไป
