ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กระทรวงพลังงาน เลือกจังหวัดภูเก็ต นำร่องการศึกษาขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้โครงการศึกษาเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการอนุรักษ์พลังงานจังหวัด เพื่อส่งเสริมให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (17 เม.ย.) ที่ห้องรับรอง ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเข้าร่วมรับฟังข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็น ในโครงการศึกษาขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการอนุรักษ์พลังงาน (ภายใต้โครงการศึกษาเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการอนุรักษ์พลังงานจังหวัดภูเก็ต )โดยมี นายประมวล จันทร์พงษ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน นายชริน ธำรงเกียรติกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต นายสุรชัย ชัยวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต นายสถิรพงศ์ ณ ตะกั่วทุ่ง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
นายประมวล จันทร์พงษ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน จะเข้ามาศึกษาเพื่อส่งเสริมให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากจังหวัดภูเก็ต มีการใช้พลังงานที่ค่อนข้างสูงเป็นอันดับ 3 ของภาคใต้ เพราะฉะนั้น ในการส่งเสริมการลดใช้พลังงานจะเป็นการร่วมมือกับภาคเอกชน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และไฟฟ้าสาธารณะ โดยการศึกษาตั้งเป้าหมายที่จะลดปริมาณการใช้พลังงาน 10% หรือประมาณ 32 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้ระบบไฟฟ้าของจังหวัดภูเก็ต มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และภาคเอกชนก็จะลดค่าใช้จ่าย ค่าต้นทุนในเรื่องพลังงานได้ และในการศึกษานี้จะใช้ระยะเวลา 6 เดือน เพื่อส่งเสริมการปรับเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น เครื่องปรับอากาศประสิทธิภาพสูง หรือหลอดไฟฟ้า LED
สำหรับการดำเนินโครงการ รัฐบาลจะสนับสนุนเงินในส่วนหนึ่งเพื่อการรณรงค์ลดพลังงาน แต่เนื่องจากการใช้พลังงานไฟฟ้าในภาคใต้ มีการใช้มากกว่าที่ผลิตได้ จึงจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าจากภาคกลาง ซึ่งมาจากโรงไฟฟ้าราชบุรี และจังหวัดภูเก็ต มีการใช้พลังงานที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเหมาะสมที่จะเป็นจังหวัดนำร่องในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อดำเนินการสำเร็จแล้วจะส่งต้นแบบให้แก่ทุกจังหวัดในภาคใต้ เพื่อเป็นแม่แบบในการดำเนินการต่อไป ซึ่งจากการพูดคุยกับภาคเอกชนก็ให้ความสนใจ และความร่วมมือเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ภาคเอกชนจะได้รับผลประโยชน์จากการใช้โดยตรง และสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ประเทศชาติก็จะลดการสร้างโรงไฟฟ้าได้อีกด้วย ในส่วนของภาคใต้ ทางกระทรวงพลังงาน ได้เล็งเห็นถึงความพร้อมของจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (17 เม.ย.) ที่ห้องรับรอง ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเข้าร่วมรับฟังข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็น ในโครงการศึกษาขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการอนุรักษ์พลังงาน (ภายใต้โครงการศึกษาเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการอนุรักษ์พลังงานจังหวัดภูเก็ต )โดยมี นายประมวล จันทร์พงษ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน นายชริน ธำรงเกียรติกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต นายสุรชัย ชัยวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต นายสถิรพงศ์ ณ ตะกั่วทุ่ง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
นายประมวล จันทร์พงษ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน จะเข้ามาศึกษาเพื่อส่งเสริมให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากจังหวัดภูเก็ต มีการใช้พลังงานที่ค่อนข้างสูงเป็นอันดับ 3 ของภาคใต้ เพราะฉะนั้น ในการส่งเสริมการลดใช้พลังงานจะเป็นการร่วมมือกับภาคเอกชน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และไฟฟ้าสาธารณะ โดยการศึกษาตั้งเป้าหมายที่จะลดปริมาณการใช้พลังงาน 10% หรือประมาณ 32 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้ระบบไฟฟ้าของจังหวัดภูเก็ต มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และภาคเอกชนก็จะลดค่าใช้จ่าย ค่าต้นทุนในเรื่องพลังงานได้ และในการศึกษานี้จะใช้ระยะเวลา 6 เดือน เพื่อส่งเสริมการปรับเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น เครื่องปรับอากาศประสิทธิภาพสูง หรือหลอดไฟฟ้า LED
สำหรับการดำเนินโครงการ รัฐบาลจะสนับสนุนเงินในส่วนหนึ่งเพื่อการรณรงค์ลดพลังงาน แต่เนื่องจากการใช้พลังงานไฟฟ้าในภาคใต้ มีการใช้มากกว่าที่ผลิตได้ จึงจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าจากภาคกลาง ซึ่งมาจากโรงไฟฟ้าราชบุรี และจังหวัดภูเก็ต มีการใช้พลังงานที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเหมาะสมที่จะเป็นจังหวัดนำร่องในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อดำเนินการสำเร็จแล้วจะส่งต้นแบบให้แก่ทุกจังหวัดในภาคใต้ เพื่อเป็นแม่แบบในการดำเนินการต่อไป ซึ่งจากการพูดคุยกับภาคเอกชนก็ให้ความสนใจ และความร่วมมือเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ภาคเอกชนจะได้รับผลประโยชน์จากการใช้โดยตรง และสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ประเทศชาติก็จะลดการสร้างโรงไฟฟ้าได้อีกด้วย ในส่วนของภาคใต้ ทางกระทรวงพลังงาน ได้เล็งเห็นถึงความพร้อมของจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ