กระบี่ - เจ้าท่ากระบี่ ยันไร้คราบน้ำมันจากเหตุเรือโดยทัวร์โดยสารถูกไฟไหม้จมใต้ทะเล พร้อมให้เวลา 30 วัน กู้ซากเรือ ขณะที่ศพเด็กหญิงรายดังกล่าวพ่อแม่ยังไม่ยืนยัน ส่งตรวจพิสูจน์แล้ววันนี้
จากกรณีที่ได้เกิดเหตุไฟไหม้เรือทัวร์โดยสารอ่าวนางปริ้นเซส 5 ของบริษัทอ่าวนางเทรเวลแอนด์ทัวร์ หลังจากวิ่งออกจากท่าเรือหาดรัตน์ธารา ม.5 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อไปส่งผู้โดยสารซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต แต่ระหว่างทางได้เกิดไฟลุกไหม้ตัวเรืออย่างรวดเร็ว ทำให้นักท่องเที่ยวที่โดยสารมาในเรือ จำนวน 107 คน พร้อมคนเรือ และไกด์ จำนวน 8 คน รวม 115 คน หนีตายโดดทะเลอลหม่าน เหตุเกิดบริเวณเกาะเสม็ด ม.5 ต.อ่าวนาง เป็นเหตุให้เด็กหญิง ด.ญ.ชานี มาริล (Shani Maril) อายุ 12 ปี นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (10 เม.ย.) นายบุญเชาว์ ตั้งสิริไพศาล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบซากเรืออ่าวนางปริ้นเซส 5 ของบริษัทอ่าวนางทราเวลแอนด์ทัวร์ ที่ถูกถูกไฟไหม้จมอยู่ใต้ท้องทะเล ที่ระดับน้ำลึกประมาณ 20 เมตร โดยพบว่า เหลือแต่ส่วนของซากที่เป็นท้องเรือ ส่วนประกอบอื่นที่เป็นเสากระโดงเรือ หรือตัวเรือถูกไฟไหม้ทั้งหมด สามารถวัดความสูงจากพื้นไม่เกิน 2 เมตร จึงไม่มีผลกระทบต่อการเดินเรือบริเวณดังกล่าว
ในเบื้องต้น ได้ทำการวางทุ่นไว้เป็นสัญลักษณ์เพื่อให้ผู้ใช้เรือเส้นทางดังกล่าว เพิ่มความระมัดระวัง และได้เร่งรัดไปยังบริษัทเรือให้ทำการเร่งกู้ซากเรือให้เสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งทราบว่าทางบริษัทเรือดังกล่าวได้มีการทำประกันไว้ด้วย และได้ขอตรวจสอบรายละเอียดกับบริษัทประกันก่อน
ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าตัวเครื่องยนต์ซึ่งบรรจุน้ำมันไว้เป็นจำนวนมากนั้นถูกไฟไหม้จนเหลือแต่เศษเหล็ก ก่อนจมลงสู่ใต้ท้องทะเล จึงไม่มีคราบน้ำมันลอยออกมาจากตัวเรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณดังกล่าวตามที่หลายคนเป็นห่วงแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ เปิดเผยถึงการจัดการเกี่ยวกับศพของ ด.ญ.ชานี มาริล (Shani Maril) อายุ 12 ปี นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เสียชีวิตจากเหตุเรือถูกไฟไหม้ว่า ในเบื้องต้น ทางพ่อแม่ของเด็กไม่ยืนยันว่าศพที่เจอเป็นลูกตัวเอง เนื่องจากรูปพรรณได้ผิดแปลกไปจากเดิมมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องส่งไปตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ หรือดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ โดยทางมูลนิธิประชาสันติสุขกระบี่ ได้จัดการเคลื่อนย้ายศพไปที่สนามบินตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน คาดว่าจะถึงโรงพยาบาลตำรวจก่อนเที่ยง ส่วนการดำเนินคดีขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐาน
จากกรณีที่ได้เกิดเหตุไฟไหม้เรือทัวร์โดยสารอ่าวนางปริ้นเซส 5 ของบริษัทอ่าวนางเทรเวลแอนด์ทัวร์ หลังจากวิ่งออกจากท่าเรือหาดรัตน์ธารา ม.5 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อไปส่งผู้โดยสารซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต แต่ระหว่างทางได้เกิดไฟลุกไหม้ตัวเรืออย่างรวดเร็ว ทำให้นักท่องเที่ยวที่โดยสารมาในเรือ จำนวน 107 คน พร้อมคนเรือ และไกด์ จำนวน 8 คน รวม 115 คน หนีตายโดดทะเลอลหม่าน เหตุเกิดบริเวณเกาะเสม็ด ม.5 ต.อ่าวนาง เป็นเหตุให้เด็กหญิง ด.ญ.ชานี มาริล (Shani Maril) อายุ 12 ปี นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (10 เม.ย.) นายบุญเชาว์ ตั้งสิริไพศาล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบซากเรืออ่าวนางปริ้นเซส 5 ของบริษัทอ่าวนางทราเวลแอนด์ทัวร์ ที่ถูกถูกไฟไหม้จมอยู่ใต้ท้องทะเล ที่ระดับน้ำลึกประมาณ 20 เมตร โดยพบว่า เหลือแต่ส่วนของซากที่เป็นท้องเรือ ส่วนประกอบอื่นที่เป็นเสากระโดงเรือ หรือตัวเรือถูกไฟไหม้ทั้งหมด สามารถวัดความสูงจากพื้นไม่เกิน 2 เมตร จึงไม่มีผลกระทบต่อการเดินเรือบริเวณดังกล่าว
ในเบื้องต้น ได้ทำการวางทุ่นไว้เป็นสัญลักษณ์เพื่อให้ผู้ใช้เรือเส้นทางดังกล่าว เพิ่มความระมัดระวัง และได้เร่งรัดไปยังบริษัทเรือให้ทำการเร่งกู้ซากเรือให้เสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งทราบว่าทางบริษัทเรือดังกล่าวได้มีการทำประกันไว้ด้วย และได้ขอตรวจสอบรายละเอียดกับบริษัทประกันก่อน
ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าตัวเครื่องยนต์ซึ่งบรรจุน้ำมันไว้เป็นจำนวนมากนั้นถูกไฟไหม้จนเหลือแต่เศษเหล็ก ก่อนจมลงสู่ใต้ท้องทะเล จึงไม่มีคราบน้ำมันลอยออกมาจากตัวเรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณดังกล่าวตามที่หลายคนเป็นห่วงแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ เปิดเผยถึงการจัดการเกี่ยวกับศพของ ด.ญ.ชานี มาริล (Shani Maril) อายุ 12 ปี นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เสียชีวิตจากเหตุเรือถูกไฟไหม้ว่า ในเบื้องต้น ทางพ่อแม่ของเด็กไม่ยืนยันว่าศพที่เจอเป็นลูกตัวเอง เนื่องจากรูปพรรณได้ผิดแปลกไปจากเดิมมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องส่งไปตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ หรือดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ โดยทางมูลนิธิประชาสันติสุขกระบี่ ได้จัดการเคลื่อนย้ายศพไปที่สนามบินตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน คาดว่าจะถึงโรงพยาบาลตำรวจก่อนเที่ยง ส่วนการดำเนินคดีขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐาน
