ฉะเชิงเทรา - ชาวบางคล้า แห่ชมเรือโบราณ พร้อมปืนใหญ่ไม่ทราบยุค หลังทหารหน่วยทหารพัฒนาที่ 15 พบโดยบังเอิญจากการขุดลอกคลองท่าลาด แก้ปัญหาน้ำท่วมให้ชาวบ้าน เชื่อเป็นของทัพพระเจ้าตาก ขณะผ่านปากน้ำโจ้โล้ เพื่อไปตีเมืองจันท์ ด้านผู้นำท้องถิ่นเตรียมหาวิธีการเก็บรักษา
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (13 มี.ค.) ชาวบ้าน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา พากันเดินทางไปยังวัดกกสับใน หมู่ 4 ต.ปากน้ำ อ.บางคล้า หลังทราบข่าวขุดค้นพบซากเรือโบราณ และถ้วยชามสมัยก่อน พร้อมปืนใหญ่โบราณไม่ทราบยุคสมัย สร้างความแตกตื่นฮือฮาเป็นอย่างมาก
พระใบฎีกายอด กตปฺญโญ อายุ 50 ปี รักษาการเจ้าอาวาส เปิดเผยว่า ปืนใหญ่ และซากเรือโบราณ พร้อมสิ่งของเครื่องใช้จำพวกชามกระเบื้อง และตะเข็บเรือทองเหลือง ถูกนำขึ้นมาไว้ภายในวัดแห่งนี้ หลังเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยทหารพัฒนาที่ 15 ได้เข้ามาขุดลอกคลองท่าลาด ค้นพบเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้นำขึ้นมาไว้ยังบริเวณศาลาท่าน้ำของวัดเมื่อ 2 วันก่อน หลังจากที่ชาวบ้านทราบข่าวต่างพากันเดินทางมาดูเกือบตลอดทั้งวัน
ขณะที่ นายวัยพจน์ จิตนะวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 กล่าวว่า หลังขุดพบปืนใหญ่พร้อมซากเรือโบราณ ได้รายงานให้ นายชิดชนก ทัพแสง นายอำเภอบางคล้า และจังหวัดทราบแล้ว ต้องรอให้กรมศิลปากรเข้ามาตรวจสอบให้แน่ชัดว่า ปืนใหญ่ รวมถึงซากเรือโบราณ และสิ่งของเครื่องใช้อยู่ในยุคสมัยใด นอกจากนี้ ยังเตรียมที่จะปรึกษากับทางอำเภอ และจังหวัดเพื่อจัดหาสถานที่เก็บรักษาต่อไป
เบื้องต้นเชื่อว่า อาจจะเป็นของกองทัพพระเจ้าตาก ที่เคยเดินทัพผ่านพื้นที่ในอดีตครั้งกรุงศรีอยุธยาแตก และผ่านเข้ามาบริเวณปากน้ำโจ้โล้ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ขุดพบเพียง 2 กิโลเมตร ระหว่างทางที่จะมุ่งหน้าเข้าตีเมืองจันทบุรี ซึ่งในครั้งนั้นอาจเกิดเรืออับปางก็เป็นไปได้
สำหรับปืนใหญ่ที่ถูกค้นพบในครั้งนี้ น่าจะเป็นปืนใหญ่ประจำเรือแบบที่ใช้วิธีการอัดดินปืนลงในกระบอกทางปากกระบอก และจุดชนวนที่ช่องรูด้านบนท้ายปืน โดยเป็นปืนที่หล่อขึ้นด้วยเหล็ก มีอักษรภาษาอังกฤษที่บนตัวปืนว่า ROOSRS ขนาดลำกล้องภายในประมาณ 3 นิ้ว ขนาดลำกล้องภายนอกด้านท้ายประมาณ 8 นิ้ว มีหูวางแขวนเป็นแกนสำหรับวางพาดกับฐานทั้ง 2 ข้าง ความยาวลำกล้องประมาณ 1.2 เมตร น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม การเคลื่อนย้ายต้องใช้คนแบกหามถึง 4 คน
ด้าน พ.ต.มนัส โชติญาโน นายทหารส่งกำลังบำรุง สำนักงานทหารพัฒนาภาค 1 ซึ่งเดินทางมาดูสิ่งของโบราณ และปืนใหญ่ กล่าวว่า หน่วยทหารที่ได้เข้ามาทำการขุดลอกคูคลอง และค้นพบ คือ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 15 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สำนักงานภาค 1 ซึ่งการขุดลอกคูคลองก็เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการป้องกันแก้ปัญหาน้ำท่วมตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ในเขตพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านว่า ปืนใหญ่กระบอกดังกล่าวถูกขุดพบภายในลำคลองท่าลาด เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน แต่ผู้ที่ขุดพบไม่ได้แจ้งต่อชาวบ้าน หรือผู้นำชุมชน หรือทางวัดให้ทราบ โดยนำไปเก็บไว้เอง แต่ได้เกิดปรากฏการณ์ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อสำหรับคนในยุคสมัยนี้ คือ ผู้ที่นำไปเก็บรักษาถูกสิ่งลี้ลับรบกวนจนนอนไม่หลับ จึงตัดสินใจนำกลับเอามาคืน ด้วยการนำกลับมาวางไว้ที่วัดกกสับ นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวลือการขุดลอกคลองท่าลาดครั้งนี้ พบหีบสมบัติ และของมีค่าอีกด้วย แต่ไม่มีการเปิดเผยให้รู้โดยทั่วกัน