สตูล - เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสตูล ลุยป่าพืชกระท่อม 200 ไร่ หาเส้นทางลำเลียงกระท่อมออกจากป่า เผยเป็นแหล่งที่วัยรุ่นลอบเข้ามาตัดนำไปขาย พบร่องรอยการตอนกิ่งเพื่อรอวันเก็บ และนำออกไปจากพื้นที่ ด้านกรมอุทยานฯ แจงมีพันธุ์ไม้หลากสายพันธุ์ไม่สามารถโค่นทิ้งได้ ขณะที่คดีความยิง ตร. 2 นาย ยังเร่งค้นหาผู้ต้องหา 2 รายอย่างต่อเนื่องในพื้นที่
วันนี้ (4 เม.ย.) นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ร่วมกับ พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวนของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ร่วมกับทางฝ่ายปกครองของอำเภอมะนัง และนายอัศวิน กลับแป้น เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด พร้อมคณะเจ้าหน้าที่กว่า 10 นาย เดินเท้าเข้าป่าในพื้นที่หมู่บ้านควนดินดำ หมู่ที่ 9 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล เพื่อร่วมกันเข้าไปตรวจสอบป่ากระท่อม 200 ไร่ ที่อยู่ในพื้นที่ความดูแลของหน่วยพิทักษ์ป่าภูผาเพชร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด
สำหรับการเดินเท้าเข้าไปจะต้องปีนหน้าผาสูง เป็นเส้นทางคดเคี้ยวโขดหินอย่างลำบาก และการข่าวแจ้งว่า เป็นหนึ่งในเส้นทางการลำเลียงขนใบกระท่อมออกจากพื้นที่ป่า หน่วยพิทักษ์ป่าภูผาเพชร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด และเมื่อถึงดงป่ากระท่อมก็จะพบต้นกระท่อมก้านแดง และก้านเขียว ที่เป็นพืชกระท่อมที่กลุ่มนักเสพนำไปต้มน้ำกระท่อมผสมเป็นยาเสพติดชนิด 4 คูณ 100 และพบร่องรอยการตอนกิ่ง และตัดให้ต่ำลงเพื่อปล่อยให้กระท่อมแตกยอดใบใหม่ เพื่อรอวันเก็บและนำออกไปจากพื้นที่ ทั้งนี้ ยังพบร่องรอยการจุดไฟในพื้นที่
ด้าน นายปัญญา ทองนุ่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.ปาล์มพัฒนา เปิดเผยว่า พื้นที่ป่ากระท่อมแห่งนี้มีกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่อำเภอมะนัง ส่วนใหญ่จะเข้ามาลักลอบนำออกไปโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย แม้จะมีการตั้งด่านตรวจเข้มก็ตาม ซึ่งพฤติกรรมจะมาเข้ามาตอนกลางคืน และตัดเก็บใบกระท่อมก้านแดง และจะนำออกไป แม้เส้นทางลำบากก็จะขน และนำไปขายต่อโดยทำเป็นมัดๆ แบ่งขายตามลูกค้าในพื้นที่สตูลต้องการ
นายอัศวิน กลับแป้น เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด กล่าวว่า จังหวัดสตูล เคยมีนโยบายการโค่นต้นกระท่อม 200 ไร่ทิ้ง และได้ทำเรื่องถึงกรมอุทยานฯ แล้ว แต่ทางอุทยานแจ้งว่า พื้นที่ป่ากระท่อมมีพืชพันธุ์ไม้หลากหลายสายพันธุ์ผสมอยู่เยอะ และเป็นป่าต้นน้ำจึงไม่สามารถตัดโค่นทิ้งได้ จึงได้ชะลอการตัดโค่นทิ้ง รวมทั้งกลุ่มอนุรักษ์ป่าไม้มองว่า เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่อุดสมบูรณ์ไม่เหมาะทำลายเพราะมีสัตว์นานาชนิดอาศัยหาอาหารแถวนั้น โดยเฉพาะหมู่ป่า จึงเปลี่ยนเป็นตั้งด่านสกัดกั้นแทน
สำหรับความคืบหน้าของคดียิงตำรวจ 2 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงลงพื้นที่หาการข่าวของผู้ต้องหาที่หลบหนีในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และหลายฝ่ายยังคงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอด ทั้งการข่าว สภ.มะนัง และชุดของสืบสวนสอบสวนของภาค 9
