ลำปาง - ตำรวจเมืองรถม้าระดมกำลัง พร้อมแจ้งด่านตรวจทุกเส้นทางล่าผู้ต้องหาพยายามฆ่า ตร. ค้ายาเสพติด และอีกหลายคดี หลังยิงตำรวจเจ็บ 2 นาย ปะทะเจ้าหน้าที่จนถูกยิงเจ็บ ถูกส่งรักษาตัวใน รพ.ลำปาง มีเจ้าหน้าที่เรือนจำเฝ้า เผยญาติมาเยี่ยมพานั่งรถเข็นออกนอกห้องก่อนมีเก๋งทะเบียนสระบุรีมารับ แต่ญาติรอ 2-3 ชม.ถึงแจ้งเจ้าหน้าที่
พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน ผกก.สภ.เมืองลำปาง, พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม ผกก.สส.ภ.จว.ลำปาง ต้องนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปางทั้งใน-นอกเครื่องแบบ, หน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดลำปาง, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดลำปาง รวมกว่า 50 นาย กระจายกำลังออกสืบสวนหาข่าวตั้งแต่เย็นวานนี้ (22 ก.พ.)
หลังนายประชา ดวงใย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีสำคัญ ที่ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นายเมื่อคืนวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมาก่อนหนีเข้าป่า และเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่กระดูกขาซ้ายแตก และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง ซึ่งแพทย์ได้เข้าเฝือก พร้อมให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยมีกำลังเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางลำปางควบคุมอยู่ ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น.(22 ก.พ.) ญาติและภรรยาผู้ต้องหามาเยี่ยม ก่อนที่จะนำผู้ต้องหานั่งรถเข็นออกมานอกห้องพัก และหลบหนีไปได้ในที่สุด
เบื้องต้นทราบว่ามีผู้ที่ขับรถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน กต 4404 สระบุรี มาจอดรออยู่ฝั่งประตูทางเข้าออกโรงพยาบาลลำปาง ฝั่งถนนพหลโยธินและหลบหนีไป จนผ่านไปนานกว่า 2-3 ชั่วโมงญาติที่มาเยี่ยมจึงแจ้งและประสานเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปแล้ว คาดว่าน่าจะหลบหนีไปไกลแล้ว จึงได้มีการแจ้งไปตามด่านตรวจต่างๆ ตรวจค้นรถลักษณะดังกล่าวอย่างละเอียด
พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม ผกก.สส.ภ.จว.ลำปาง กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการวางแผนมาอย่างดีเพื่อที่จะนำตัวผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่เรือนจำคอยควบคุมดูแลอยู่ที่ห้องพัก ซึ่งจะได้เร่งติดตามตัวมาให้เร็วที่สุด เนื่องจากผู้ต้องหามีคดีติดตัว และเป็นคดีสำคัญๆ หลายคดี อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บเข้าเฝือกที่ขาซ้าย แต่ก็ยังหลบหนีไปได้
สำหรับนายปรีชา ดวงใย ถูกตั้งข้อหาทั้งพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ฯ, ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตและมีเหตุอันควร, ยิงปืนในที่สาธารณะฯ, มีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, มียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย, มียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
