ยะลา - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุการปรับเปลี่ยนกำลังพลในห้วง 1 เมษายน 58 จะปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม เพื่อนำกำลังพลในกองทัพภาค 4 เข้าดูแลพื้นที่ชายแดนใต้
วันนี้ (1 เม.ย.) พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยถึงการปรับเปลี่ยนกำลังในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันที่ 1 เมษายน 58 นี้ โดยได้แยกเป็น 2 ส่วน ซึ่งในส่วนที่ 1 คือ การสับเปลี่ยนกำลังตามวงรอบการปฏิบัติ โดยเฉพาะหน่วยที่ปฏิบัติงานในพื้นที่มานานจนครบวาระการปฏิบัติ ก็จะปรับเปลี่ยนกำลังกลับไปยังหน่วยที่ตั้งตามปกติ และนำกำลังพลส่วนใหม่ลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่ทดแทน ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติตามปกติ
ส่วนที่ 2 คือ การปรับเปลี่ยนกำลังที่มาจากกองทัพภาคอื่น โดยขอเรียนว่า อยู่ในระยะที่ 2 ของการแก้ไขปัญหา ซึ่งทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พยายามสร้างความเข้มแข็งให้แก่พลเรือน และกำลังภาคประชาชนในการเข้ามาร่วมรับผิดชอบดูแลพื้นที่ ซึ่งตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ในห้วงของวันที่ 1 เมษายนนี้ จะมีการสับเปลี่ยนกำลังพลในส่วนของหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี โดยจากเดิมนั้นมีกำลังพลจากกองทัพภาค 2 ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ก็จะเปลี่ยนกำลังให้กำลังพลจากกองทัพภาคที่ 4 เข้าไปปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบต่อ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนเฉพาะส่วนของผู้บังคับบัญชา ซึ่งจากเดิมที่เคยมีรองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ก็ปรับเปลี่ยนเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ซึ่งเป็นหน่วยในพื้นที่ ได้เข้าไปทำหน้าที่เป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมหารือกันหลายครั้งและจะเริ่มทำการปรับเปลี่ยนกำลังพล และปฏิบัติงานอย่างสมบูรณ์ภายในวันที่ 1 เมษายน 58 นี้ ซึ่งอย่างไรก็ตาม จะยังคงมีผู้บังคับบัญชาที่มาจากกองทัพภาคที่ 2 ในลักษณะของชุดควบคุมอีก 9 อัตรา เพื่อทำหน้าที่ในการประสานงานระหว่างหน่วยบังคับบัญชาของกองทัพภาค 2 กับกำลังพลภาค 2 ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ขณะนี้ โดยยังเหลือเพียง 1 กองพัน คือ หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ ดังนั้น การปรับเปลี่ยนกำลังพลในห้วงวันที่ 1 เมษายน 58 นี้ สรุปได้ว่า หน่วยกำลังพลของกองทัพภาคที่ 1, 2, 3 ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ยกเว้นส่วนบังคับบัญชาของกองทัพภาคที่ 2 จะมีการปรับเปลี่ยนระดับผู้นำหน่วยเท่านั้น
