ยะลา - อดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามยะลา หวั่นเหตุการณ์สังเวย 4 ศพ “ทุ่งยางแดง” อาจกระทบ “ทุ่งยางแดงโมเดล” แนะดำเนินการตรวจสอบตรงไปตรงมาตามกฎหมาย ย้ำต้องรอฟังคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อนตัดสิน
วันนี้ (31 มี.ค.) นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ในฐานะหัวหน้าในฐานะหัวหน้าคณะวิทยากรในโครงการเสวนาสัญจร อำเภอทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์เกิดที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ขอเริ่มต้นที่ความเสียดาย และความเศร้าใจเป็นห่วงด้วยในฐานะที่ตนเป็นคนหนึ่งในหลายคนที่ทำโครงการเสวนาสัญจรทุ่งยางแดง ซึ่งเป็นการเสนารุ่นที่ 4
หลักการที่ทำโครงการเสวนาสัญจร คือ เอาคนในพื้นที่ที่มีพลังเช่น นายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อิหม่าม ปราชญ์ท้องที่ หรือบางคนที่ขัดแย้งในพื้นที่ที่มีความสามรถในพื้นที่เหล่านี้ไปร่วมนอนกิน 6-7 วัน ไปทำความเข้าใจ ไปจับมือกัน เมื่อเขาเข้าใจสภาวะ สภาพปัญหาเป็นหน้าที่ที่พวกเขาจะต้องไปปรับ ไปพัฒนาพื้นที่ของเขา ให้คนในพื้นที่รับผิดชอบในปัญหาของตนเอง เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตนเองรู้สึกลำบากใจ ว่า ทำไมหน่วยงานความมั่นคงไม่ประสานสัมพันธ์กัน ทำไมไม่พูดคุยกัน ทั้งที่รู้แล้วว่าพื้นที่นั้นเป็นอย่างไร คงไม่ล้วงลึกลงไปเพราะมีคณะกรรมการตรวจสอบ
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากดำเนินการด้วยดี มีการแก้ปัญหาด้วยดี พบปัญหาตัวการที่แท้จริง เชื่อว่าทุ่งยางแดงโมเดล ก็คงเดินหน้าต่อได้ แต่ถ้าพลาดพลั้งบุคคลเหล่านั้นยังไม่พึงพอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีการแก้ไข ทุ่งยางแดงโมเดล ก็จะล้มเหลว สิ่งอื่นๆ ที่เคยเสวนาสัญจรก็จะล้มเหลวตามไปด้วย แต่ในขั้นต้นยังไม่ชี้ว่าใครผิดใครถูก แต่ถ้าชาวบ้านเป็นฝ่ายผิดจริง มีอาวุธจริง ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย” นายนิมุ กล่าว
“แต่ในทางกลับกัน ถ้าฝ่ายเจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายผิดคือ ไปใช้อำนาจเกิดเหตุไปทำให้เกิดครหา ทำให้คนดีเสียชีวิตก็ต้องดำเนินการ ชาวบ้านต้องการคำขอโทษด้วยความจริงใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์กรณีอย่างนี้อีก ควรลงโทษบุคคลเหล่านั้นเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่อื่นๆ นำไปเป็นแบบย่าง ต้องเยียวยาผู้สูญเสีย แต่ขณะนี้ยังไม่มีการตัดสิน ต้องรอฟังคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน” นายนิมุ กล่าวทิ้งท้าย