การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด จัดโครงการ “บินลัดฟ้าอันดามัน สุดปลายฟ้าบูรพาเมืองตราด” นำสื่อมวลชนจากภูเก็ต สัมผัสเมืองแห่งความสุขสีเขียว และเมืองที่ห้ามพลาด ด้วยความสวยงามของธรรมชาติ และวัฒนธรรมประเพณี “วันตราดรำลึก” 23 มี.ค.ทุกๆ ปี เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวตราดให้รู้จักมากขึ้น
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด ได้จัดโครงการนำสื่อมวลชนในจังหวัดภูเก็ต “บินลัดฟ้าอันดามัน สุดปลายฟ้าบูรพาเมืองตราด” โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ระหว่างวันที่ 22-24 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน “ตราดรำลึก” ที่จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 23 มี.ค. และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดตราด ให้เป็นที่รู้จักของคนภูเก็ต และทั่วประเทศ
โดยได้แนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดตราด เช่น จุดชมวิวและถ่ายภาพสุดแผ่นดินตะวันออก วีรกรรมทหารเรือไทยในยุทธนาวีเกาะช้าง ที่ทหารเรือไทยต่อสู้กับทหารเรือฝรั่งเศสด้วยความกล้าหาญ แม้ว่ากำลังพลและเรือรบจะด้อยกว่าก็ตาม ที่อำเภอแหลมงอบ พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด ที่รวบรวมเรื่องราวสำคัญๆ ของเมืองตราดไว้ทั้งหมด เมื่อนักท่องเที่ยวไปเยือนพิพิธภัณฑแห่งนี้ ทำให้ทราบถึงความเป็นมาของจังหวัดตราด ของดีเมืองตราดทั้งหมด ฯลฯ รวมไปถึงการข้ามแดนไปท่องเที่ยวยังเกาะกง ประเทศกัมพูชา การเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองตราด การชมเหยี่ยวแดงคอขาว ชมและชิมสละที่มีชื่อเสียงและเต็มไปด้วยคุณภาพ ขึ้นชื่อของจังหวัดตราด ที่สวนสมโภชน์ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสวน และเรียนรู้การปลูกสละ รวมทั้งเลือกซื้อสละหวานๆ หรือจะเป็นสละลอยแก้วก็ได้
การเดินทางไปท่องเที่ยวยังจังหวัดตราดก็สะดวกสบาย โดยทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส์ได้เปิดเที่ยวบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังจังหวัดตราดวันละ 3 เที่ยวบิน หรือจะเดินทางโดยรถยนต์ก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ
นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า จังหวัดตราด ได้กำหนดวิสัยทัศน์ให้เป็นเมืองอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือกรีน ซิตี (Green City) เพื่อให้ทุกคนตระหนักในเรื่องของการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะตราดเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ เราจึงกำหนดตลาดท่องเที่ยวไปที่นักท่องเที่ยวคุณภาพ และพักนาน จากที่ตราด มีเกาะที่สวยงาม สงบ เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น เกาะกูด และเกาะหมาก ที่เป็นเกาะโลว์คาร์บอน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักนาน บางคนพักยาวถึง 4 เดือนในปีหนึ่ง และจะมาทุกปี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มสแกนดิเนเวีย
แม้แต่ในเมืองตราดเองก็มีชุมชนบางชุมชนเก่าแก่ และควรค่าการอนุรักษ์ เช่น ชุมชนคลองบางพระ ซึ่งเป็นชุมชนโบราณมา 100 กว่าปีแล้ว มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักตามเกสต์เฮาส์ต่างๆ คืนหนึ่งประมาณ 30-40 คน แม้ชุมชนแห่งนี้จะไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก แต่การท่องเที่ยวก็สามารถเลี้ยงคนในชุมชนได้ และยังมีชุมชนอื่นๆ อีกหลายชุมชนที่ทำในลักษณะเดียวกัน
น.ส.วรรณประภา สุขสมบูรณ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด เปิดเผยว่า จังหวัดตราด มีแบรนด์การท่องเที่ยวประจำจังหวัด คือ ตราดกรีน ซิตี หรือตราดเมืองแห่งความสุขสีเขียว ที่ ททท.ใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะจังหวัดตราด อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ทั้งเกาะแก่งต่างๆ หาดทรายชายทะเลที่ยังบริสุทธิ์ และไม่ถูกทำลาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนในธรรมชาติที่สงบ
โดยจังหวัดตราดนั้น มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นขึ้นทุกๆ ปี ซึ่งเมื่อปีนี้มีนักท่องเที่ยวถึง 1,600,000 กว่าคน แยกเป็นนักท่องเที่ยวคนไทย 1,200,000 กว่าคน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 400,000 คน ซึ่งจุดนี้จะเห็นชัดว่าจังหวัดตราดมีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก แต่มีธรรมชาติที่สวยงาม และยังคงความเป็นธรรมชาติ มีหาดทรายชายทะเลที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะตราดไม่เน้นนักท่องเที่ยวที่เป็น mass แต่จะเน้นไปที่นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เพราะฉะนั้นโรงแรมที่จังหวัดตราดจะขายห้องพักคืนละ 5,000-100,000 บาท และมีโรงแรมชื่อดังที่ขายห้องสูงถึงคืนละ 100,000 บาท คือ โรงแรมโซเนวา อยู่ที่เกาะกูด เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวกลุ่มสแกนดิเนเวีย โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักที่เข้าตราดจะเป็น เยอรมนี ฝรั่งเศส สวีเดน เกาหลี และนักท่องเที่ยวในโซนยุโรปตะวันออกทั้งหมด
ทั้งนี้เ พราะแหล่งท่องเที่ยวของตราดไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในตัวเมือง มีความสงบ เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยว และมีเกาะแก่งต่างๆ ทั้งหมด 52 เกาะ โดยมี เกาะเด่นๆ อยู่ 3 เกาะ คือ เกาะช้าง เกะกูด เกาะหมาก โดยเฉพาะเกาะหมาก จะมีเอกลักษณ์ที่สำคัญ คือ เป็นเกาะโลว์คาร์บอน ซึ่งจะให้ความชัดเจนในเรื่องของการรักษาธรรมชาติ ที่นั่นจะมีความสวยงามของหมู่เกาะเล็กๆ ที่อยู่โดยรอบ ซึ่งจะมีเกาะขาม เกาะกระดาษ เกาะขาม ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะอัญมณีแห่งตะวันออกของตราด
นอกจากนี้ ตราดยังมีเทศกาลประเพณีที่เป็นหัวใจของจังหวัดตราด คือ งานตราดรำลึก ที่จัดขึ้นทุกวันที่ 23 มี.ค.ของทุกปี เพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือพระพุทธเจ้าหลวง ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อแผ่นดินตราดเป็นอย่างมาก เพราะครั้งหนึ่งจังหวัดตราด เคยอยู่ในความปกครองของฝรั่งเศส และท่านก็ได้นำจังหวัดตราดกลับคืนสู่แผ่นดินไทย ในวันที่ 23 มีนาคม ซึ่งตรงนี้ชาวตราดจะตราลึกไว้ในหัวใจ และรำลึกถึงท่าน จึงได้จัดงานติดต่อกันมาเป็นปีที่ 109 แล้วในปีนี้
น.ส.วรรรณประภา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทาง ททท.ยังได้เลือกให้จังหวัดตราดเป็น 1 ใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด และรัฐบาลได้กำหนดให้ตราดเป็นเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 5 เมืองในประเทศไทย ซึ่งจุดนี้ทาง ททท.ได้เตรียมส่งเสริมการท่องเที่ยว ในเรื่องเมืองต้องห้ามพลาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทราบว่า เมื่อมาตราดแล้วจะต้องไม่พลาดอะไรบ้าง 5 อย่าง ที่เป็นที่สุดของตราด คือ 1.ตราดเป็นเมืองอยู่สุดบูรพาฝั่งของตะวันออก ถ้ามาไม่ถึงตราดท่านก็มาไม่สุดบูรพา 2.สุดยอดของเมืองที่มีธรรมชาติที่ดีที่สุดในฝั่งตะวันออก ที่มีเกาะโลว์คาร์บอน 3.สุดยอดแห่งอาหารทะเลที่อุดมสมบูรณ์ 4.สุดยอดแห่งผลไม้ไทยนานาพันธุ์ เมื่อเริ่มเข้าสู่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ถ้าท่านมาตราดท่านจะได้กินผลไม้ และทุเรียนที่อร่อยที่สุด เนื้อนิ่มที่สุดอยู่ที่เกาะช้าง สละที่อร่อย หวานที่สุด พันธุ์สุมาลี ซึ่งเป็นพันธุ์เดียวที่อยู่จังหวัดตราด รวมถึงสับปะรดที่หวาน กรอบ อร่อย ซึ่งเป็นพันธุ์ตราดสีทอง และ 5.เมืองแห่งความสุขสีเขียว เมื่อมาเที่ยวตราดต้องไม่พลาดสิ่งเหล่านี้
ผอ.ททท.ตราด ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น ขณะนี้จังหวัดตราด ได้ร่วมกับ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว และ ททท.จ.ตราด ร่วมกันนำนักธุรกิจการท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนบริษัทนำเที่ยว ประเทศกัมพูชา ที่จังหวัดเกาะกง กำป๊อด กำปงโสม และสีหนุวิลล์ เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีด้านการท่องเที่ยว ซึ่งตอนนี้ทางหอการค้าได้รุกต่อและจะมีการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันต่อไป
ส่วนการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตตัวเมืองตราดนั้น ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด ได้วางแผนไว้ว่า เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงตราดแล้วจะต้องพยายามดึงนักท่องเที่ยวพักในตัวเมืองตราดอย่างน้อย 1 คืน ก่อนที่จะลงไปพักผ่อนตามเกาะแก่งต่างๆ ด้วยการจัดให้มีกิจกรรมต่างๆ เช่น การล่องเรือในคลองบางพระ แม่น้ำตามชุมชนต่างๆ หรือจะเป็นโครงการรถรางวิ่งรอบตัวเมือง พานักท่องเที่ยวชม และเรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองตราด ทั้งที่ศาลหลักเมือง วัดบุปผาราม ซึ่งเป็นที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นต้น
