ยะลา - พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติหลายแห่งใน จ.ยะลา เข้าขั้นวิกฤตหนัก หลังมีกลุ่มชาวบ้าน นายทุนบุกรุกโค่นเอาท่อนซุงโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซ้ำร้ายพื้นที่บางส่วนถูกเผาทำลายหลังโค่นเสร็จ เผยในรอบ 3 วัน ถูกรุกโค่นแล้วกว่า 3 แปลง เป็นเนื้อที่กว่า 32 ไร่ รวมเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 5,000,000 บาท ขณะที่คนร้ายไหวตัวทันหลบหนีลอยนวล
วันนี้ (23 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วยระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 19-21 มีนาคม 58 ที่ผ่านมา ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ยะลา และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยะลา ว่า พบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจังหวัดยะลา จำนวนหลายแห่งถูกบุกรุกทำลาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังร่วมกันเข้าตรวจสอบ
โดยในวันที่ 19 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ภายใต้การสั่งการของ ผวจ.ยะลา พล.ต.ต.วิชิต ปักษา ผบก.ตชด.ภาค 4 ผบ.ชค.ตชด. ผบ.กกล.ทพ.จชต.ภายใต้การสั่งการอำนวยการ โดย พ.ต.อ.ณรงค์ ธนานันทกุล ผกก.ตชด.44 พ.ต.ท.จักรกฤช รังสิโยภาส ผบ.ฉก.ตชด.44 ผกก.6 บก.ปทส. ผบ.ฉก.ทพ.41 ผบ.ฉก.ทพ.33 ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สาขานราธิวาส ให้คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย จนท.ทหาร กกล.จชต. ฉก.ทพ.41 ฉก.ทพ.33 ฉก.ยะลา 13 จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล 1 (กาบัง) ยล 3 (ลำพะยา) ยล 4 (บันนังสตา) ยล 5 (รามัน) จนท.หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 4 สนง.สสน.การป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคใต้ จนท.ตร.กก.สส.ภ.จ.ยะลา สายตรวจ กก.6 บก.ปทส. จ.ยะลา สภ.กรงปินัง จ.ยะลา จนท.กก.ตชด.44 ฉก.ตชด.44 นำโดย ร.ต.ท.อรุณ กุลกัลยา พร้อมเจ้าหน้าที่รวม 30 นาย
ได้รับคำสั่งให้ออกปฏิบัติการพิสูจน์ทราบกลุ่มบุคคล บุคคล ที่เข้าไปลักลอบตัดไม้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำความผิดว่าด้วยกฎหมายป่าไม้ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าต้นน้ำลำธาร แหล่งกำเนิดน้ำ ต้นน้ำแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี จ.ยะลา
เนื่องจาก ฉก.ตชด.44 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวแจ้งว่า มีกลุ่มบุคคล บุคคล ยังเข้าไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่าไม้สมบูรณ์บนภูเขาสูง ต้นน้ำลำธาร แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี เหนือทะเลสาบเขื่อนบางลาง ท้องที่ อ.กรงปินัง อ.รามัน อ.ธารโต จ.ยะลา จำนวนมากหลายจุด
คณะเจ้าหน้าจึงได้ประชุมร่วมกันวางแผนในการปฏิบัติการ และเข้าปฏิบัติการตรวจพบพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย 3 แปลง คือ แปลงที่ 1 ที่ความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 404 เมตร ท้องที่ป่าบ้านบากง ม.10 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เขตป่าไม้ถาวร ต้นน้ำแม่น้ำปัตตานี ทะเลสาบเขื่อนบางลาง เขื่อนปัตตานี ตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย โดยพบต้นไม้มีค่าขนาดเล็กถูกตัดโค่นด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ส่วนไม้พื้นล่างไม้ขนาดเล็ก ไม้ไผ่ วัชพืช ถูกตัดฟันด้วยมีดพร้า หรือขวาน ป่าไม้ถูกทำลายแผ้วถางประมาณ 10 วัน ยังไม่เผาทำลาย ยังไม่ปลูกพืชใด ป่าไม้ถูกทำลายเป็นบริเวณกว้าง ตั้งแต่เชิงเขาถึงแนวสันเขาสูง ผู้กระทำผิดหลบหนีไปก่อน จนท.ไปถึง คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมตรวจวัดเนื้อที่ป่าไม้ถูกทำลายเสียหาย จำนวน 3ไร่ 1 งาน 44 ตารางวา รัฐได้รับความเสียหายเป็นเงิน 504,000 บาท
แปลงที่ 2 ที่ความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 252 เมตร ท้องที่ป่าบ้านบากง ม.10 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เขตป่าไม้ถาวร ต้นน้ำแม่น้ำปัตตานี ทะเลสาบเขื่อนบางลาง เขื่อนปัตตานี จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย โดยพบต้นไม้มีค่าขนาดเล็ก-ขนาดกลาง ถูกตัดโค่นด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ส่วนไม้พื้นล่าง ไม้ขนาดเล็ก ไม้ไผ่ วัชพืช ถูกตัดฟันด้วยมีดพร้า หรือขวาน ป่าไม้ถูกเผาทำลายทั้งแปลง ประมาณ 10 เดือน ยังไม่ปลูกพืชใด ป่าไม้ถูกทำลายเป็นบริเวณกว้าง ตั้งแต่เชิงเขาถึงแนวสันเขาสูง คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมตรวจวัดเนื้อที่ป่าไม้ถูกทำลายเสียหาย จำนวน 6 ไร่ 3 งาน 21 ตารางวา รัฐได้รับความเสียหายเป็นเงิน 1,020,375 บาท
แปลงที่ 3 ที่ความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 263 เมตร ท้องที่ป่าบ้านบากง ม.10 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เขตป่าไม้ถาวร ต้นน้ำแม่น้ำปัตตานี ทะเลสาบเขื่อนบางลาง เขื่อนปัตตานี จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย โดยพบต้นไม้มีค่าขนาดเล็ก-ขนาดกลาง ถูกตัดโค่นด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ส่วนไม้พื้นล่าง ไม้ขนาดเล็ก ไม้ไผ่ วัชพืช ถูกตัดฟันด้วยมีดพร้าหรือขวาน ป่าไม้ถูกเผาทำลายทั้งแปลง ประมาณ 10 เดือน ยังไม่ปลูกพืชใด ป่าไม้ถูกทำลายเป็นบริเวณกว้าง ตั้งแต่เชิงเขาถึงแนวสันเขาสูง คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดเนื้อที่ป่าไม้ถูกทำลายเสียหาย จำนวน 12 ไร่ 1 งาน 26 ตารางวา รัฐได้รับความเสียหายเป็นเงิน 1,847,250 บาท
ต่อมา เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา เจ้าพนักงานตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์ที่กำลังถูกลักลอบทำลายใหม่ ที่ความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 260 เมตร ท้องที่ป่าบ้านรานอ ม.8 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขากาลอ ต้นน้ำแม่น้ำปัตตานี เขื่อนปัตตานี ตรวจสอบโดยละเอียดพบต้นไม้มีค่าขนาดเล็ก-ใหญ่ ถูกตัดโค่นด้วยเครื่องโซ่เลื่อยยนต์ ไม้พื้นล่าง ไม้ไผ่ วัชพืช ถูกตัดฟันด้วยมีดพร้าบางส่วน ถูกเผาทำลายบางส่วน ป่าไม้ถูกทำลายตั้งแต่บริเวณริมห้วยถึงแนวเชิงเขา และตรวจพบมีการลักลอบตัดไม้ทำไม้ซุงท่อน ตรวจไม้ทุกท่อนไม่พบรูปรอยดวงตราของเจ้าพนักงานป่าไม้ตีประทับแต่อย่างใด เชื่อว่าเป็นไม้ที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย สามารถตรวจยึดไม้ จำนวน 15 ท่อน เป็นชนิดไม้ไข่เขียว, ไม้ทัง, ไม้กาลอ, ไม้ขี้หนอน ขนาดใหญ่ และพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายจำนวน 4 ไร่ 3 งาน 84 ตารางวา รัฐได้รับความเสียหายเป็นเงิน 744,000 บาท โดยผู้กระทำความผิดหลบหนีไปก่อน จนท.ไปถึง
และในวันที่ 21 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้สมบูรณที่กำลังถูกลักลอบทำลายใหม่ ที่ความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 401 เมตร ท้องที่ป่าบ้านตะโล๊ะเลาะ ม.1 ต.บือมัง จ.ยะลา เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขากาลอ ต้นน้ำแม่น้ำสายบุรี จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย โดยพบต้นไม้มีค่าขนาดเล็ก ขนาดกลาง ถูกตัดโค่นด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ส่วนไม้พื้นล่าง ไม้ขนาดเล็ก ไม่ไผ่ วัชพืช ถูกตัดฟันด้วยมีดพร้า ป่าไม้ถูกทำลายมาแล้วประมาณ 7-8 เดือน ยังไม่ได้เผาทำลาย ป่าไม้ถูกทำลายเป็นบริเวณกว้าง ตั้งแต่ลำห้วยถึงเชิงเขา คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมตรวจวัดเนื้อที่ป่าไม้ถูกทำลายเสียหาย จำนวน 5 ไร่ 3 งาน 71 ตารางวา รัฐได้รับความเสียหายเป็นเงิน 889,125 บาท เจ้าหน้าที่ได้ติดป้าย “คืนป่าให้พ่อแห่งแผ่นดิน” แสดงการตรวจสอบตรวจยึดไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยกล่าวว่า ผู้ที่ลักลอบตัดไม้ทำลายป่ากระทำความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ผู้ใดกระทำความผิดลักลอบตัดไม้ทำลายป่า หลบหนีได้สะดวก เนื่องจากเส้นทางเข้าพื้นที่จะต้องเดินเท้าระยะไกล มีคนเฝ้าเส้นทาง และในป่ามีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้ผู้กระทำความผิดหลบหนีไปได้ก่อนเจ้าหน้าที่จะไปถึง พร้อมยังได้รับรายงานว่า ในหลายพื้นที่ยังมีการบุกรุกลักลอบตัดไม้ทำลายป่ารุนแรง และเผาป่าในหลายพื้นที่ จ.ยะลา จ.นราธิวาส และ จ.สงขลา
