นราธิวาส - แม่ค้าขายผลไม้สุดทนแจ้งความเอาผิดเจ้าของฝูงวัวเป็นอุทาหรณ์ หลังปล่อยเดินเพ่นพ่านใจกลางเมืองทำลายข้าวของเสียหายมูลค่ากว่า 2 หมื่นบาท
วันนี้ (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. นางวิไล พิพิธวัฒนาพันธุ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 204 ม.1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นแม้ค้าขายผลไม้ และของชำ ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันต่อ ร.ต.ท.อุทัย พันธ์ทอง พนักงานสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส กรณีถูกฝูงวัวของชาวบ้านประมาณ 10 ถึง 15 ตัว ที่เลี้ยงแบบปล่อยไม่มีการดูแลจัดทำคอก ได้เดินเพ่นพ่านเข้ามาทำลายข้าวของ และกัดกินผลไม้ ที่จัดเตรียมไว้ตั้งจำหน่ายที่บริเวณแฝงหน้าร้านของแต่ละวันในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 2 เดือน สร้างความเสียหายต่อสินค้ารวมแล้วประมาณ 2 หมื่นบาท โดยที่ นางวิไล ทุกค่ำก่อนปิดร้านจะใช้ลังพลาสติกที่ใช้สำหรับใส่ผลไม้ มาปิดบังเพื่อกันคนขโมยเป็นประจำทุกวัน และที่เข้าลงบันทึกประจำวันในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่คนที่เลี้ยงวัว และควาย อย่าเลี้ยงแบบปล่อยปละละเลยไม่มีดูแล อาจจะเสียเงินแทนที่จะเอาเงินดังกล่าวที่ต้องจ่ายค่าเสียหายไปทำคอกไว้ให้สัตว์ได้อาศัยจะดีกว่า
ซึ่ง นางวิไล และสามี เคยได้ไปร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลรือเสาะ เพื่อกำชับเจ้าหน้าที่ในการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่าปล่อยให้เดินเพ่นพ่านใจกลางเมือง แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด จนเวลาค่ำของทุกวันฝูงวัวดังกล่าวจะเดินเพ่นพ่าน และกัดกินทำลายข้าวของของชาวบ้านเป็นประจำ แต่ไม่มีใครเอาเรื่อง แต่ตนถูกฝูงวัวทำลายข้าวของและกัดกินผลไม้มา 4 ครั้งแล้ว จนเงินที่เก็บหอมรอมริบไว้ก็ต้องเอาออกมาลงทุนใหม่อีก แทนที่จะได้เก็บเงินส่งบุตรสาวเรียนหนังสือ จึงอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากถึงวัวจะไม่สร้างความเสียหายต่อสินค้าตน แต่ดูแล้วก็ไม่สมควรที่ถนนในเขตเทศบาล จะมีวัวมาเดินเพ่นพ่าน และถ่ายอุจาระกองไว้ตามท้องถนน ซึ่งเหมือนกับความเจริญยังเข้าไปไม่ถึง
ชด้านนางวิไล พิพิธวัฒนาพันธุ์ กล่าว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อติดตามเจ้าของวัวมาจ่ายค่าเสียหาย ซึ่งเงินที่ตนใช้ลงทุนก็จะไม่มีแล้ว จึงอยากจะให้เจ้าของสัตว์ดูแลให้ดี อย่าปล่อยให้มาทำลายข้าวของคนอื่น ตนถูกวัวกัดกินผลไม้ และทำลายข้าวของ 4 ครั้ง เสียหายประมาณ 2 หมื่นบาท