นราธิวาส - ฝ่ายมั่นคงนราฯ อาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก ทำการบุกจู่โจมตรวจค้นกระท่อมกลางป่าละเมาะ หลังได้รับแจ้งข่าวว่ามีชายฉกรรจ์ซ่องสุมทำสิ่งผิดกฎหมาย โดยจับกุมตัวได้ 3 ราย อีก 2 รายหลบหนีไปได้ พบอาวุธปืนอาก้า และยาเสพติดจำนวนหนึ่ง พร้อมนำตัวสอบขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อคดีฆ่า 3 ชาวสุรินทร์หรือไม่
วันนี้ (2 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.รือเสาะ ร.ต.อ.ศราวุธ เกาะสมัน รอง หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และพนักงานสอบสวน ได้ร่วมกันตรวจสอบดีเอ็นเอ และคราบลายนิ้วมือแฝงของอาวุธปืนอาก้า พร้อมกระสุนปืน 6 นัด โทรศัพท์มือถือ และยาเสพติดอีกหลายรายการ หลังจากที่กองกำลัง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 สภ.รือเรือเสาะ และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมสนธิกำลังใช้กฎอัยการศึกในการบุกจู่โจมตรวจค้นกระท่อมกลางป่าละเมาะ ซึ่งตั้งอยู่บ้านกาโดะ ม.4 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ในช่วงเวลา 22.00 น.ของคืนวันที่ 1 ก.พ.58 ที่ผ่านมา
หลังสืบเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีชายฉกรรจ์จำนวน 4-5 คน ได้ใช้เป็นแหล่งซ่อมสุม เมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันโอบล้อม และแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ทำให้ชายฉกรรจ์ จำนวน 5 คน ที่อาศัยอยู่ในกระท่อมได้พากันวิ่งหลบหนี และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวไว้ได้ 3 คน ทราบชื่อ คือ 1.นายอับดุลเลาะ ยีกาจิ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172/ 2 ม.4 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 2.นายซูฮัมดี หะยีมะดีเยาะ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/1 หมู่บ้านเดียวกัน และ 3.นายเปาซี ดือเระ 29 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส
และจากการตรวจค้นกระท่อมหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบของกลางอาวุธปืนอาก้า ที่คนร้ายได้ลบหมายเลขประจำปืนออก พร้อมกระสุน เงินสด 40,260 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง น้ำกระท่อมต้ม ยาบ้า 10 เม็ด และอุปกรณ์การเสพยาเสพติดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาสอบสวนเบื้องต้นที่ สภ.รือเสาะ ว่าทั้ง 3 คน มีส่วนพัวพันต่อเหตุการณ์บุกยิงนายสุทธิพงษ์ ณ รัฐกิจ นายจักรินทร์ แก่นแก้ว และนายสมชาย ปรึกษาดี ขณะที่ทั้ง 3 คน นั่งรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ มาส่งขนมที่ร้านค้าริมถนนสายรือเสาะ-ตะโล๊ะหะลอ ช่วงบริเวณบ้านปูโป๊ะ ม.2 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ จ.สุรินทร์ เหตุเกิดในช่วงเที่ยงของวันที่ 28 ม.ค.58 ที่ผ่านมาหรือไม่
ซึ่งในเบื้องต้นทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น และพัวพันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนอาวุธปืนอาก้าที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาได้ เป็นของเพื่อนอีก 2 คน ที่หลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอสงวนชื่อ และนามสกุล เพื่อจะติดตามจับกุม และขยายผลในคดีดังกล่าว พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวบุคคลทั้ง 3 ไปสอบสวนขยายผลตามกระบวนการที่ศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พร้อมทั้งตรวจสอบอาวุธปืนอาก้าว่าคนร้ายได้ขโมยมาจากหน่วยกองกำลังชุดใดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากคนร้ายก่อเหตุใด
