นครศรีธรรมราช - รองแม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจดูการขนย้ายยางพาราในโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯ ของรัฐบาลจากโรงรมในภาคใต้ ไปจัดเก็บที่โกดัง จ.ชลบุรี ใช้รถบรรทุกกว่า 700 เที่ยว ขนย้ายยางกว่า 2 หมื่นตัน
วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณาคะ รองแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ เข้าตรวจโกดังยางลูกขุนโรงรมยางบริษัททองไทย นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยดูการขนย้ายยางลูกขุน ขององค์การสวนยางที่รับซื้อยางจากเกษตรกรผ่านตลาดกลางยางพาราฯ
เข้าโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางพารา ตามนโยบายรัฐบาล จากนั้นส่งให้โรงรมของเอกชนแปรรูปเป็นยางลูกขุน จนมีปริมาณเต็มโรงรมในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้องค์การสวนยางต้องชะลอการรับซื้อยางชั่วคราว เพื่อระบายยางจาก 21 โรงรมที่กระจายอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง กระบี่ พังงา และ จ.สงขลา มีปริมาณรวม 21,479 ตัน
พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณาคะ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า ในการนี้องค์การสวนยางจ้างเหมาบริษัทเอกชนบรรทุกขนย้ายยางไปส่งที่โกดัง ซีแอนด์ที โมดูลาร์ จ.ชลบุรี จำนวน 722 เที่ยวๆ ละ 30 ตัน ใช้งบประมาณ 27 ล้านบาท เริ่มขนส่งตั้งแต่วันนี้ (11 มี.ค.) ถึงวันที่ 25 เมษายนปีนี้ ในวันแรกวันนี้ขนย้ายยางจาก 9 โรงรม โดยมีกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 จัดกำลังพลกำกับดูแลการขนย้ายยางพาราจากโรงรมทั้งหมดในภาคใต้ ไปส่งที่โกดัง จ.ชลบุรี และมีกำลังพลของกองทัพภาคที่ 1 ช่วยอำนวยความสะดวกการขนย้าย
สำหรับโครงการมูลภัณฑ์กันชนได้เริ่มตลาดประมูลในราคานำตลาดอีกครั้งในวันนี้ หลังจากเกิดภาวะยางเข้าสู่ระบบจนล้นไม่สามารถผลิตเป็นยางลูกขุนได้ทัน และปริมาณการเก็บยางลูกขุนล้นโกดังจนต้องเร่งระบายออกไปยังโกดังในจังหวัดชลบุรี เพื่อที่จะเปิดพื้นที่รองรับยางที่เข้ามาใหม่