ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจน้ำลงพื้นที่เกาะพีพี จับเรือให้บริการนักท่องเที่ยวดูปลาใต้ทะเล พบเรือต่อทะเบียนถูกต้อง แต่แจ้งข้อหาใช้เรือผิดประเภท ขณะที่เจ้าของเรือยืนยันไม่ได้จับปลามาขังในเรือตามที่เป็นข่าว ขณะที่เรือมีการจดทะเบียนถูกต้อง ส่วนการให้อาหารปลาได้สั่งให้หยุดดำเนินการแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (23 ก.พ.) พ.ต.ต.อนุรักษ์ ปริญญาสถิรกุล สว.ส.รน.1 กก.9 บก.รน. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ ได้เข้าตรวจสอบเรือให้บริการนักท่องเที่ยวชมปลาในท้องทะเล หลังจากมีการแชร์ภาพผ่านโซเชียล เน็ตเวิร์ก และมีการวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสม ซึ่งจากการตรวจสอบพบเรือลำดังกล่าวชื่อเรือ โลกใต้ทะเล จอดลอยลำให้บริการนักท่องเที่ยวบริเวณอ่าวต้นไทร ม.7 เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โดยมีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งกำลังเข้ามาใช้บริการ
พ.ต.ต.อนุรักษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า เรือลำดังกล่าวมี นายนิคม โอชา อยู่จังหวัดภูเก็ต เป็นเจ้าของเรือ ภายในเรือมีกัปตัน และลูกเรือ รวม 3 คน กำลังจอดลอยลำให้บริการนักท่องเที่ยว จึงได้ทำการขอตรวจดูใบอนุญาตการใช้เรือพบว่า มีการขออนุญาตเป็นเรือโดยสารนำเที่ยว มีใบอนุญาตเรือถูกต้อง แต่นำไปใช้ผิดประเภท เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาใช้เรือผิดเงื่อนไข พร้อมกับเปรียบเทียบปรับ 1 หมื่นบาท ซึ่งเป็นโทษอัตราสูงสุด และปล่อยเรือไป
พ.ต.ต.อนุรักษ์ กล่าวว่า จาการขอตรวจสอบเอกสารจากผู้ดูแลเรือทราบว่า เรือลำนี้เป็นเรือโดยสาร ชื่อ “โลกใต้ทะเล” ตัวเรือเป็นเหล็ก มีใบอนุญาตใช้เรือ และยังไม่หมดอายุ มีใบอนุญาตเกี่ยวกับลูกเรือถูกต้อง จากการสอบถามผู้ดูแลเรือทราบว่า เรือลำนี้เป็นของ นายนิคม โอชา เจ้าของ บ.พีพีครุยเซอร์ อยู่ที่ จ.ภูเก็ต โดยเรือนี้จะจอดทิ้งสมอประจำอยู่ที่อ่าวต้นไทร เกาะพีพี จ.กระบี่ ไม่มีการเคลื่อนย้าย แต่จะมีเรือของบริษัทฯ นำผู้โดยสารที่ซื้อทัวร์มาเพื่อดูปลา และดำน้ำ ครั้งละไม่เกิน 30 คน
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในตัวเรือ พบว่า เรือมีช่องสำหรับให้นักท่องเที่ยวเข้าไปดูปลาโดยอัดอากาศไล่น้ำออกทางใต้ท้องเรือ ตัวเรือใต้น้ำเป็นกระจกผสมกับตะแกรงเหล็กที่มีช่องขนาดใหญ่ให้ปลาสามารถเข้าออกได้ ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในพบมีนักท่องเที่ยวอยู่ในห้องใต้ท้องเรือประมาณ 13 คน โดยนักท่องเที่ยวได้ลงมาดูปลา แต่ไม่พบว่ามีการให้อาหารปลา หรือจับปลาแต่อย่างใด เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าของเรือว่าใช้เรือผิดเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาตใช้เรือ ทำการเปรียบเทียบปรับ 10,000 บาท ส่วนในข้อกฎหมายเกี่ยวกับอุทยาน ได้แจ้งให้ทาง จนท.อุทยานฯ เข้าตรวจสอบอีกครั้ง
ด้าน นายบุญเชาว์ ตั้งสิริไพศาล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ กล่าวว่า จากการได้รับรายงานเบื้องต้น จากเจ้าหน้าที่พบว่า เรือลำดังกล่าวยังไม่เข้าข่ายเรือท้องกระจก เหมือนอย่างที่มีการแชร์กันในโลกโซเชียล เนื่องจากมีการเปิดด้านใต้โล่ง และนักท่องเที่ยวสามารถลงไปอยู่ใต้ท้องเรือได้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะมีการพูดคุยหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่งเพื่อดูว่าเรือลำดังกล่าวเข้าข่ายเรือท้องกระจกหรือไม่ เพราะสถานที่อื่นไม่มีกฎหมายห้ามเรือท้องกระจก ยกเว้นเฉพาะจังหวัดกระบี่
ด้าน นายนิคม โอชา ประธาน บ.พีพีครุย เซอร์ และเป็นเจ้าของเรือลำดังกล่าว กล่าวว่า เรือ“โลกใต้ทะเล” ไม่ใช่เรือท้องกระจก และเป็นเรือที่ต่อขึ้นมาเพื่อให้บริการทางด้านการท่องเที่ยว ขออนุญาตเป็นเรือท่องเที่ยว มีการจดทะเบียนเรือถูกต้อง และทะเบียนเรือไม่ขาดเหมือนกับที่มีการแชร์ในโลกโซเชียล และที่สำคัญเรื่องของปลาที่เข้ามาในเรือนั้นไม่มีการจับปลามาขังไว้แต่อย่างใด ปลาสามารถเข้าออกได้ตลอดเวลา
เรือลำนี้มีลักษณะการทำงานคล้ายกับซีวอล์กเกอร์ที่ใช้เรื่องของแรงดันอากาศมาช่วยไล่น้ำออกจากเรือ เมื่ออากาศมาแทนที่ก็จะทำให้น้ำลดระดับลง นักท่องเที่ยวก็สามารถลงไปอยู่ในน้ำ และเล่นกับปลาได้ ส่วนเรื่องของการให้อาหารปลาเมื่อทราบว่าผิดก็ได้สั่งให้พนักงานแจ้งทางนักท่องเที่ยวแล้วว่าห้ามไม่ให้อาหารปลา ซึ่งที่ผ่านมา เรือลำอื่นๆ ก็มีการให้อาหารปลาเช่นกัน แต่เมื่อมีการท้วงติงมาก็จะปรับปรุง ส่วนเรื่องของการตรวจสอบตนก็พร้อมที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบทุกเวลา
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (23 ก.พ.) พ.ต.ต.อนุรักษ์ ปริญญาสถิรกุล สว.ส.รน.1 กก.9 บก.รน. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ ได้เข้าตรวจสอบเรือให้บริการนักท่องเที่ยวชมปลาในท้องทะเล หลังจากมีการแชร์ภาพผ่านโซเชียล เน็ตเวิร์ก และมีการวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสม ซึ่งจากการตรวจสอบพบเรือลำดังกล่าวชื่อเรือ โลกใต้ทะเล จอดลอยลำให้บริการนักท่องเที่ยวบริเวณอ่าวต้นไทร ม.7 เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โดยมีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งกำลังเข้ามาใช้บริการ
พ.ต.ต.อนุรักษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า เรือลำดังกล่าวมี นายนิคม โอชา อยู่จังหวัดภูเก็ต เป็นเจ้าของเรือ ภายในเรือมีกัปตัน และลูกเรือ รวม 3 คน กำลังจอดลอยลำให้บริการนักท่องเที่ยว จึงได้ทำการขอตรวจดูใบอนุญาตการใช้เรือพบว่า มีการขออนุญาตเป็นเรือโดยสารนำเที่ยว มีใบอนุญาตเรือถูกต้อง แต่นำไปใช้ผิดประเภท เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาใช้เรือผิดเงื่อนไข พร้อมกับเปรียบเทียบปรับ 1 หมื่นบาท ซึ่งเป็นโทษอัตราสูงสุด และปล่อยเรือไป
พ.ต.ต.อนุรักษ์ กล่าวว่า จาการขอตรวจสอบเอกสารจากผู้ดูแลเรือทราบว่า เรือลำนี้เป็นเรือโดยสาร ชื่อ “โลกใต้ทะเล” ตัวเรือเป็นเหล็ก มีใบอนุญาตใช้เรือ และยังไม่หมดอายุ มีใบอนุญาตเกี่ยวกับลูกเรือถูกต้อง จากการสอบถามผู้ดูแลเรือทราบว่า เรือลำนี้เป็นของ นายนิคม โอชา เจ้าของ บ.พีพีครุยเซอร์ อยู่ที่ จ.ภูเก็ต โดยเรือนี้จะจอดทิ้งสมอประจำอยู่ที่อ่าวต้นไทร เกาะพีพี จ.กระบี่ ไม่มีการเคลื่อนย้าย แต่จะมีเรือของบริษัทฯ นำผู้โดยสารที่ซื้อทัวร์มาเพื่อดูปลา และดำน้ำ ครั้งละไม่เกิน 30 คน
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในตัวเรือ พบว่า เรือมีช่องสำหรับให้นักท่องเที่ยวเข้าไปดูปลาโดยอัดอากาศไล่น้ำออกทางใต้ท้องเรือ ตัวเรือใต้น้ำเป็นกระจกผสมกับตะแกรงเหล็กที่มีช่องขนาดใหญ่ให้ปลาสามารถเข้าออกได้ ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในพบมีนักท่องเที่ยวอยู่ในห้องใต้ท้องเรือประมาณ 13 คน โดยนักท่องเที่ยวได้ลงมาดูปลา แต่ไม่พบว่ามีการให้อาหารปลา หรือจับปลาแต่อย่างใด เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าของเรือว่าใช้เรือผิดเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาตใช้เรือ ทำการเปรียบเทียบปรับ 10,000 บาท ส่วนในข้อกฎหมายเกี่ยวกับอุทยาน ได้แจ้งให้ทาง จนท.อุทยานฯ เข้าตรวจสอบอีกครั้ง
ด้าน นายบุญเชาว์ ตั้งสิริไพศาล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ กล่าวว่า จากการได้รับรายงานเบื้องต้น จากเจ้าหน้าที่พบว่า เรือลำดังกล่าวยังไม่เข้าข่ายเรือท้องกระจก เหมือนอย่างที่มีการแชร์กันในโลกโซเชียล เนื่องจากมีการเปิดด้านใต้โล่ง และนักท่องเที่ยวสามารถลงไปอยู่ใต้ท้องเรือได้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะมีการพูดคุยหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่งเพื่อดูว่าเรือลำดังกล่าวเข้าข่ายเรือท้องกระจกหรือไม่ เพราะสถานที่อื่นไม่มีกฎหมายห้ามเรือท้องกระจก ยกเว้นเฉพาะจังหวัดกระบี่
ด้าน นายนิคม โอชา ประธาน บ.พีพีครุย เซอร์ และเป็นเจ้าของเรือลำดังกล่าว กล่าวว่า เรือ“โลกใต้ทะเล” ไม่ใช่เรือท้องกระจก และเป็นเรือที่ต่อขึ้นมาเพื่อให้บริการทางด้านการท่องเที่ยว ขออนุญาตเป็นเรือท่องเที่ยว มีการจดทะเบียนเรือถูกต้อง และทะเบียนเรือไม่ขาดเหมือนกับที่มีการแชร์ในโลกโซเชียล และที่สำคัญเรื่องของปลาที่เข้ามาในเรือนั้นไม่มีการจับปลามาขังไว้แต่อย่างใด ปลาสามารถเข้าออกได้ตลอดเวลา
เรือลำนี้มีลักษณะการทำงานคล้ายกับซีวอล์กเกอร์ที่ใช้เรื่องของแรงดันอากาศมาช่วยไล่น้ำออกจากเรือ เมื่ออากาศมาแทนที่ก็จะทำให้น้ำลดระดับลง นักท่องเที่ยวก็สามารถลงไปอยู่ในน้ำ และเล่นกับปลาได้ ส่วนเรื่องของการให้อาหารปลาเมื่อทราบว่าผิดก็ได้สั่งให้พนักงานแจ้งทางนักท่องเที่ยวแล้วว่าห้ามไม่ให้อาหารปลา ซึ่งที่ผ่านมา เรือลำอื่นๆ ก็มีการให้อาหารปลาเช่นกัน แต่เมื่อมีการท้วงติงมาก็จะปรับปรุง ส่วนเรื่องของการตรวจสอบตนก็พร้อมที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบทุกเวลา
