สุราษฎร์ธานี - ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี สั่งตั้งชุดเฉพาะกิจไล่ล่าฆาตกรลวงสาวนิรนามหมายข่มขืน และฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ทิ้งศพประจานบริเวณจุดชมวิวบนเกาะสมุย ระบุเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
จากรณีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (23 ก.พ.) พบศพหญิงสาวนอนเสียชีวิตบริเวณ ม.3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสถานที่ชมวิวลาดเกาะของเกาะสมุย ที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาวชาวไทย อายุประมาณ 30 ปี ผิวคล้ำ สูงประมาณ 160 ซม. โดยเสื้อยืดถูกคนร้ายถลกขึ้นไปจนถึงราวนม ที่หัวนมข้างซ้ายมีบาดแผลลักษณะคล้ายถูกกัด และที่บริเวณใบหน้าถูกคนร้ายใช้เทปกาวสีเหลืองพันรัดที่ปาก ส่วนกางเกงถูกถลกมาจนถึงขาอ่อน ซึ่งตามร่างกายมีบาดแผลถลอกหลายแห่ง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าว หลังจากทราบเรื่องได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำกำลังชุดเฉพาะกิจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 ลงพื้นที่เกิดเหตุจัดเก็บรายละเอียดพยานหลักฐานต่างๆ อย่างละเอียด พร้อมทั้งเร่งไล่ล่าจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี และเร่งคลี่คลายผู้เสียชีวิตเป็นผู้ใครมาจากไหน
โดยให้ติดตามภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดที่อยู่ใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ แต่ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่รู้เพียงว่าผู้ตายเป็นชาวเอเชีย ไม่ทราบสัญชาติ เนื่องจากไม่หลักฐานใดๆ ติดตัว ในส่วนเรื่องการข่มขืนนั้นได้ให้มีการตรวจศพอย่างละเอียดเพื่อหาดีเอ็นเอมัดตัวคนร้าย
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของเกาะสมุย และภาพรวมของสุราษฎร์ธานี เนื่องจากลักษณะการก่อเหตุเป็นคดีที่โหดเหี้ยมทารุณ และคนร้ายยังลอยนวลอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
จากรณีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (23 ก.พ.) พบศพหญิงสาวนอนเสียชีวิตบริเวณ ม.3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสถานที่ชมวิวลาดเกาะของเกาะสมุย ที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาวชาวไทย อายุประมาณ 30 ปี ผิวคล้ำ สูงประมาณ 160 ซม. โดยเสื้อยืดถูกคนร้ายถลกขึ้นไปจนถึงราวนม ที่หัวนมข้างซ้ายมีบาดแผลลักษณะคล้ายถูกกัด และที่บริเวณใบหน้าถูกคนร้ายใช้เทปกาวสีเหลืองพันรัดที่ปาก ส่วนกางเกงถูกถลกมาจนถึงขาอ่อน ซึ่งตามร่างกายมีบาดแผลถลอกหลายแห่ง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าว หลังจากทราบเรื่องได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำกำลังชุดเฉพาะกิจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 ลงพื้นที่เกิดเหตุจัดเก็บรายละเอียดพยานหลักฐานต่างๆ อย่างละเอียด พร้อมทั้งเร่งไล่ล่าจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี และเร่งคลี่คลายผู้เสียชีวิตเป็นผู้ใครมาจากไหน
โดยให้ติดตามภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดที่อยู่ใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ แต่ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่รู้เพียงว่าผู้ตายเป็นชาวเอเชีย ไม่ทราบสัญชาติ เนื่องจากไม่หลักฐานใดๆ ติดตัว ในส่วนเรื่องการข่มขืนนั้นได้ให้มีการตรวจศพอย่างละเอียดเพื่อหาดีเอ็นเอมัดตัวคนร้าย
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของเกาะสมุย และภาพรวมของสุราษฎร์ธานี เนื่องจากลักษณะการก่อเหตุเป็นคดีที่โหดเหี้ยมทารุณ และคนร้ายยังลอยนวลอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
