ตรัง - พบพะยูนเพศผู้ อายุ 3-5 ปี หนัก 120 กิโลกรัม โดนฆ่าโหดตัดหัว และมัดลำตัวถ่วงน้ำเอาไว้ ก่อนที่จะมีชาวประมงไปพบซากที่บริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันนอกกองหิน ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง
วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัย และพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งที่ 6 จ.ตรัง ได้เดินทางไปที่ สภ.หาดสำราญ เพื่อตรวจสอบซากพะยูนเพศผู้ อายุประมาณ 3-5 ปี น้ำหนักประมาณ 120 กิโลกรัม ยาวประมาณ 2 เมตร
โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ได้นำซากพะยูนตัวดังกล่าวมาเพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน หลังมีชาวประมงพื้นบ้านออกไปพบเจอที่บริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันนอกกองหิน พื้นที่ระหว่างหมู่ที่ 3 บ้านทุ่งเปลว กับหมู่ที่ 2 บ้านนาชุมเห็ด ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ หรืออยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 3 กม.
จากการตรวจสอบซากพะยูนตัวนี้ พบว่า ที่บริเวณส่วนหัวได้ถูกตัดเอาไปแล้ว เหลือเพียงเฉพาะบริเวณลำตัว โดยมีการนำเชือกไนลอนมามัดที่บริเวณลำคอ และหาง ก่อนนำไปผูกติดกับก้อนหินขนาดใหญ่แล้วถ่วงน้ำเอาไว้เพื่อหวังทำลายหลักฐาน และต้องการไม่ให้มีใครไปพบเจอซาก ขณะที่บริเวณลำคอ และท้องของพะยูน ก็มีลำไส้ทะลักออกมา ซึ่งคาดว่าคงตายมาแล้วประมาณ 3 วัน
ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัย และพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต กล่าวว่า พะยูนตัวดังกล่าวน่าจะว่ายน้ำหากินแล้วไปติดเข้ากับเครื่องมือทำประมง จากนั้นจึงถูกชาวประมงตัดเอาบริเวณส่วนหัวไป ส่วนลำตัว และหางใช้เชือกมามัดก้อนหินถ่วงน้ำเอาไว้ ขณะที่การตายคงจะต้องการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการที่พบเห็นการตายของพะยูนในลักษณะนี้ ทำให้รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ เนื่องจากพะยูนในทะเลตรังเป็นฝูงใหญ่ จึงต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้มีการตายเกินปีละ 5 ตัว เพราะอาจมีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ได้ โดยปีนี้พบพะยูนตายลงเป็นตัวแรก ส่วนในปี 2557 พบพะยูนตายทั้งหมด 7 ตัว
