กระบี่ - ขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจังหวัดกระบี่ ตบเท้าแสดงพลังไม่เอาสัมปทาน รอบ 21 ยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรม ถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้หยุดการสัมปทานรอบที่ 21 และหันมาใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต เพื่อประโยชน์ของประเทศ พร้อมเคลื่อนไหวร่วมกันทั่วประเทศ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (16 ก.พ.) นายอัครเดช ฉากจินดา ตัวแทนขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 10 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ (หลังเก่า) เพื่อเรียกร้อง และยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้หยุดการสัมปทานรอบที่ 21 และเปลี่ยนเป็นระบบแบ่งปันผลผลิตแทน โดยมี นายธีระ ชูเชิด หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ ออกมารับหนังสือ พร้อมเชิญตัวแทนเข้าร่วมพูดคุย และสอบถามปัญหาความต้องการ
นายอัครเดช ฉากจินดา ตัวแทนขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้เปิดให้มีการยื่นความจำนงเพื่อรับสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 นั้น สังคมไทยได้ตั้งคำถามจำนวนมากถึงการสัมปทานปิโตรเลียม ทั้งนี้ เพราะในการสัมปทาน 20 รอบที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติ ที่สำคัญคือ เราไม่สามารถบริหารจัดการปิโตรเลียมได้ภายใต้ระบบสัมปทาน ทำให้ไม่สามารถนำปิโตรเลียมมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนได้ ซึ่งก่อให้เกิดผลต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน กระทบถึงค่าครองชีพของประชาชนโดยตรง
อีกทั้งยังก่อให้เกิดการทุจริตอีกมากมายภายใต้ความคลุมเครือของระบบข้อมูลที่เราไม่สามารถตรวจสอบได้ในระบบสัมปทาน ประกอบกับเมื่อพิจารณาการจัดการปิโตรเลียมของประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนพบว่า ได้เปลี่ยนระบบการจัดการปิโตรเลียมไปสู่ระบบแบ่งปันผลผลิต เนื่องจากจะทำให้กรรมสิทธิ์ในปิโตรเลียม ข้อมูลปิโตรเลียม และข้อมูลการผลิตตกเป็นของรัฐ อีกทั้งงานวิชาการหลายสถาบันได้ชี้ชัดว่า ระบบแบ่งปันผลผลิตเอื้อให้เกิดประโยชน์แก่รัฐมากกว่า เช่น สถาบันวิจัยพลังงานออกซฟอร์ด และหากพิจารณาแนวโน้มของประเทศต่างๆ ในโลกจะพบว่า ประเทศทีมีการใช้ระบบสัมปทาน จะเปลี่ยนไปใช้ระบบแบ่งปันผลผลิตกันมากขึ้น
จากภาวะดังกล่าวนี้ จึงขอให้รัฐบาลหยุดหยุดการให้สัมปทานปิโตรเลียมตามมติของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และศึกษาการจัดการปิโตรเลียมที่เป็นประโยชน์ที่สุดต่อประเทศชาติ หากรัฐบาลยังเดินหน้าใช้ระบบสัมปทานต่อไป เท่ากับเป็นการยกกรรมสิทธิ์ให้แก่บริษัทต่างชาติในการจัดการปิโตรเลียมของประเทศ นายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบต่อนโยบายการปฏิรูปที่ประกาศไว้ เพราะการเดินหน้าสัมปทานปิโตรเลียม เท่ากับไม่มีการปฏิรูปแต่อย่างใด
ขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจังหวัดกระบี่ จึงขอประกาศว่า หากรัฐบาลยังเดินหน้าสัมปทานต่อไป เราจะมุ่งหน้าสู่ กทม.ร่วมกับจังหวัดอื่น เพื่อให้พลังของประชาชนตัดสินการจัดการปิโตรเลียม ที่เป็นธรรมต่อไป เพราะรัฐบาลยอมตกอยู่ใต้อำนาจทุนมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ จึงไม่อาจหวังพึ่งรัฐบาลได้อีกต่อไป เบื้องต้น ทางศูนย์ดำรงธรรมได้รับเรื่องไว้ และจะนำเสนอตามขั้นตอนต่อไป