ยะลา - เกษตรกรจากทั้ง จ.สงขลา และ จ.ตรัง ขับรถบรรทุกนับ 10 คัน แห่นำยางแผ่นดิบมาขายที่ตลาดกลางยางพารายะลา แต่ไม่สามารถขายได้ เหตุจากมีสต๊อกยางเต็มโกดังกว่า 300 ตัน
วันนี้ (16 ก.พ.) เมื่อเวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับซื้อยางพารา ที่ตลาดกลางยางพารายะลา ถนนสุขยางค์ อ.เมือง จ.ยะลา ว่า มีบรรดาเกษตรกรทั้งรายย่อย และรายใหญ่เดินทางนำแผ่นยางพารามาขายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่พบว่า จะเป็นเกษตรกรจากพื้นที่ จ.สงขลา และ จ.ตรัง บรรทุกแผ่นยางด้วยรถเทรลเลอร์นับสิบคันมาขาย แต่เนื่องจากว่าภายในโกดังของตลาดกลางยางพารายะลา มีแผ่นยางพาราเก็บอยู่เต็มพื้นที่กว่า 300 ตัน ที่อยู่ในระหว่างรอการขนย้ายไปยังโรงงาน ทำให้เกษตรกรที่นำแผ่นยางมาขายวันนี้ไม่สามารถดำเนินการขายยางได้
น.ส.จิตรานุช เรืองกิจ นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ ตลาดกลางยางพารายะลา เปิดเผยว่า สำหรับปริมาณยางที่เกษตรกรนำมาขายในวันนี้ก็มากกว่าปกติ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นช่วงก่อนตรุษจีน รวมทั้งเกษตรกรจากนอกพื้นที่ก็ให้ความสนใจที่จะนำแผ่นยางมาขายที่ตลาดกลางยะลา เนื่องจากที่ตลาดกลางแห่งอื่นๆ มีความหนาแน่นของเกษตรกรที่นำแผ่นยางมาขาย บางรายต้องรอคิวนาน 200-300 คิว เกษตรกรบางส่วนจึงให้ความสนใจที่จะเดินทางมาขายยางที่ยะลา
ส่วนปัญหาขณะนี้ก็คือ การระบายยางพาราที่เก็บอยู่ในโกดังออกจากโรงเก็บที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ จึงทำให้เกษตรกรที่นำยางพารามาขายยังไม่สามารถขายได้ จะต้องรอคิวจนกว่าทางตลาดกลางยะลา สามารถระบายยางในโกดังออกให้ได้ก่อน รวมทั้งขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติวงเงิน จำนวน 8 พันล้านบาท ที่จะมีการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในวันที่ 17 ก.พ. นี้
“ยางที่ยังคงค้างอยู่ในโกดังส่วนใหญ่จะเป็นยางแผ่นดิมรมควันชั้น 3 ที่มีอยู่ในโกดังประมาณ 300 ตัน ที่ขณะนี้กำลังพยายามติดต่อกับองค์การสวนยางให้มารับยาง แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่า จะมารับเมื่อไหร่ แต่อย่างไรหากเกษตรกรที่มีแผงมาก็จะสามารถที่จะลงยางได้ ส่วนราคายางในขณะนี้ ยางแผ่นดิบคุณภาพดีอยู่ที่กิโลกรัมละ 58.55 บาท ส่วนยางรมควันชั้น 3 อยู่ที่กิโลกรัมละ 63.5 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คงที่มาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว” น.ส.จิตรานุช กล่าว