ชุมพร - รมว.เกษตรฯ ประกาศปิดอ่าว 3 เดือน 3 จังหวัด พื้นที่ 16.5 ล้านไร่ แหล่งใหญ่ครัวอาหารทะเลโลก ปีที่ผ่านมา สัตว์นำเพิ่มขึ้น 4 เท่า มูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่าแสนล้านบาท
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ท่าเรือเทศบาลปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร นายปิยพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย พล.ร.ท.สุชีพ หวังไมตรี ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ เป็นประธานพิธีประกาศปิดอ่าวช่วงฤดูสัตว์น้ำวางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อน ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ. ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี รวมพื้นที่ 26,400 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 16.5 ล้านไร่ ในช่วงระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์-15 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นเวลา 3 เดือน โดยกำหนดห้ามใช้เครื่องมือประมงบางชนิดทำการประมงในช่วงประกาศปิดอ่าว หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยมี นายวงศศิริ พรหมชะ ผวจ.ชุมพร นายจรูญศักดิ์ เพชรศรี หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลภาคใต้ตอนบน จ.ชุมพร หน่วยงานเกี่ยวข้อง กลุ่มพลังมวลชนเข้าร่วมจำนวนมาก ในพิธีประกาศปิดอ่าวได้จัดให้มีการแสดงนิทรรศการวงจรชีวิตสัตว์ทะเล ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ กุ้งแชบ๊วย 2 ล้านตัว กุ้งกุลาดำ 6 แสนตัว ปลากะพงขาว 20,000 ตัว หอยหวาน และเต่าอีกจำนวนหนึ่งลงสู่ทะเลอ่าวไทย
พร้อมทั้งปล่อยเรือลาดตระเวนร่วมศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชร. ประกอบด้วย เรือตรวจการณ์ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลภาคใต้ตอนบน จ.ชุมพร เรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำ เรือตรวจการณ์ทหารเรือ และเครื่องบินตรวจการณ์กรมประมง เพื่อออกลาดตระเวนป้องกัน และจับกุมเรือประมงที่ผ่าฝืนลักลอบเข้าไปทำประมงในเขตประกาศปิดอ่าว 3 จังหวัดดังกล่าว
นายปิยพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างพิธีประกาศปิดอ่าว ว่า จังหวัดชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎรธานี เปรียบเสมือนครัวอาหารทะเลของโลก เพราะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อนของสัตว์ทะเลโดยเฉพาะปลาทู ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จากการเก็บข้อมูลยืนยันแล้วว่า จำนวนประชากรสัตว์น้ำในช่วง 9 เดือน หลังจากประกาศปิดอ่าว 3 เดือนของปีที่ผ่านมา พบมีสัตว์น้ำชุกชุมเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจำนวนประชากรปลาทูเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า มีปริมาณการจับอยู่ที่ 93,000 ตัน รวมมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่าแสนล้านบาท จึงแสดงให้เห็นว่า มาตรการประกาศปิดอ่าว 3 เดือน มีส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลได้อย่างยั่งยืน
