ชุมพร - 3 จังหวัดฝั่งอ่าวไทยตอนบน ประกอบด้วย ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี ประกาศปิดอ่าวหยุดทำการประมงจับสัตว์น้ำช่วงฤดูปลาวางไข่ 3 เดือน รวมพื้นที่กว่า 16 ล้านไร่
วันนี้ ( 13 ก.พ.) ที่สะพานปลาชายหาดปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร นายชวลิต ชูขจร ปลักกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีประกาศปิดอ่าวฝั่งทะเลอ่าวไทยในท้องที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ชุมพร และพื้นที่บางส่วนของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 15 พฤษภาคม ประจำปี 2557 รวมพื้นที่ 3 จังหวัด 26,400 ตร.กม. หรือประมาณ 16.5 ล้านไร่ ไว้เป็นพื้นที่วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนของสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีคุณค่าและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ
จึงได้มีการประกาศห้ามใช้เครื่องมือบางชนิดทำการประมงในฤดูปลามีไข่ วางไข่และเลี้ยงตัวในวัยอ่อนดังกล่าว เพื่อให้สัตว์น้ำทะเลได้แพร่ขยายพันธุ์ โดยมีนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มชาวประมงจากพื้นที่ 3 จังหวัด และนักเรียน นักศึกษาเข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการหยุดทำการประมงในฤดูปลาวางไข่ในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
นายชวลิต ชูขจร ปลักกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ ได้กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมประมงที่เก็บสำรวจในปีที่ผ่านมาพบว่า หลังฤดูปิดอ่าว มีความชุกชุมของสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นถึง 1.44 เท่า โดยเฉพาะปลาทู ได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 60,000 ตันต่อปี มีมูลค่าทางเศรษฐกิจหลายหมื่นล้านบาท จึงแสดงให้เห็นว่ามาตรการดังกล่าวสามารถช่วยฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลให้มีความยั่งยืน ส่งผลให้ชาวประมงมีรายได้ในการประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
นอกจากนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มชาวประมงและนักเรียน นักศึกษาและประชาชน ได้ร่วมปล่อยพันธุสัตว์น้ำอีก จำนวน 5 ล้านตัว ลงสู่ท้องทะเลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกด้วย
วันนี้ ( 13 ก.พ.) ที่สะพานปลาชายหาดปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร นายชวลิต ชูขจร ปลักกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีประกาศปิดอ่าวฝั่งทะเลอ่าวไทยในท้องที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ชุมพร และพื้นที่บางส่วนของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 15 พฤษภาคม ประจำปี 2557 รวมพื้นที่ 3 จังหวัด 26,400 ตร.กม. หรือประมาณ 16.5 ล้านไร่ ไว้เป็นพื้นที่วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนของสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีคุณค่าและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ
จึงได้มีการประกาศห้ามใช้เครื่องมือบางชนิดทำการประมงในฤดูปลามีไข่ วางไข่และเลี้ยงตัวในวัยอ่อนดังกล่าว เพื่อให้สัตว์น้ำทะเลได้แพร่ขยายพันธุ์ โดยมีนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มชาวประมงจากพื้นที่ 3 จังหวัด และนักเรียน นักศึกษาเข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการหยุดทำการประมงในฤดูปลาวางไข่ในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
นายชวลิต ชูขจร ปลักกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ ได้กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมประมงที่เก็บสำรวจในปีที่ผ่านมาพบว่า หลังฤดูปิดอ่าว มีความชุกชุมของสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นถึง 1.44 เท่า โดยเฉพาะปลาทู ได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 60,000 ตันต่อปี มีมูลค่าทางเศรษฐกิจหลายหมื่นล้านบาท จึงแสดงให้เห็นว่ามาตรการดังกล่าวสามารถช่วยฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลให้มีความยั่งยืน ส่งผลให้ชาวประมงมีรายได้ในการประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
นอกจากนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มชาวประมงและนักเรียน นักศึกษาและประชาชน ได้ร่วมปล่อยพันธุสัตว์น้ำอีก จำนวน 5 ล้านตัว ลงสู่ท้องทะเลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกด้วย