ยะลา - องค์กรภาคประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมตัวเดินสานใจสู่สันติภาพชายแดนใต้ จาก จ.ยะลาถึง จ.นราธิวาส รณรงค์ลดใช้ความรุนแรงในพื้นที่ โดยระหว่างทางจะมีการเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน
วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 07.00 น. ที่วงเวียนหอนาฬิกา เขตเทศบาลนครยะลา กลุ่มองค์กรภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดยเครือข่ายชาวพุทธเพื่อนสันติภาพ ชนพุทธกลุ่มน้อย สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ เครือข่ายประชาสังคมนราธิวาส เครือข่ายชุมชนศรัทธา-กัมปงตักวา สมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ สภาเด็กและเยาวชนเทศบาลนครยะลา และศูนย์สันติวิธีชายแดนใต้ หรือ สสมศ.จากมหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งหมดได้รวมตัวเพื่อจะเดินทางด้วยการเดินเท้าจากจังหวัดยะลา ไปยังจังหวัดนราธิวาส ภายใต้ชื่อ “เดินสานใจสู่สันติชายแดนใต้”
โดยก่อนการเริ่มต้นเดินทางในเช้าวันนี้ จุดเริ่มต้นที่วงเวียนหอนาฬิกา เขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา เป็นประธานในการกล่าวเปิดพิธี และร่วมเดินเท้าไปกับเครือข่ายภาคประชาชน ภายใต้ชื่อ “เดินสานใจสู่สันติชายแดนใต้” ซึ่งมี นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาสันติวิธีและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล นางละหม้าย มานะการ คณะทำงานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ นายรักชาติ สุวรรณ ประธานชมรมชนพุทธกลุ่มน้อย จ.ยะลา และเยาวชน เครือข่ายอีกจำนวนหนึ่งร่วมเดินจากจุดเริ่มต้น โดยมีชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพ และสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพรวมเดินเท้าไปส่งจนถึงเขตติดต่อจังหวัดยะลา กับจังหวัดปัตตานี บริเวณ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
นางละหม้าย มานะการ คณะทำงานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ในการเดินสานใจสู่สันติชายแดนใต้ เพื่อเป็นการรณรงค์ในการลดใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการร่วมกันสานใจสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในพื้นที่ ซึ่งระหว่างเส้นทางการเดินนั้นจะแวะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน
นางละหม้าย มานะการ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินสานใจสู่สันติชายแดนใต้ ต้องการสื่อให้เห็นว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน ต้องการให้ยุติความรุนแรงจากทุกฝ่ายที่ใช้อาวุธ และต้องการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่แค่ในวันนี้เท่านั้น แต่หมายถึงต้องมีพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชนได้อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติตลอดไป