ยะลา - เกษตรกรชาวสวนยางพาราจาก ตรัง สตูล สงขลา นำยางพารามาขายที่ยะลา หลังตลาดกลางยางพาราคิวยาว ในขณะที่ ผอ.ศูนย์วิจัยการเกษตรยะลา เผยตลาดกลางยางพารายะลา รับได้วันละ 60 ตัน
วันนี้ (10 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณตลาดกลางยางพาราจังหวัดยะลา ถนนสุขยางค์ อ.เมือง จ.ยะลา ว่า มีบรรดาเกษตรกรชาวสวนยางทยอยกันนำยางมาขายให้แก่ทางตลาด กันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นยางแผ่นรมควันชั้น 3 ซึ่งราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 63 บาท
นายวิชิต ตรีพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเกษตรยะลา เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางตลาดกลางยางพารายะลา ต้องหยุดรับซื้อยางเป็นเวลา 1 วัน โดยเป็นคำสั่งมาจากส่วนกลางว่าห้ามรับซื้อยาง ทำให้ไม่สามารถลงยางได้ในวันนี้ ซึ่งคงต้องรอคำสั่งจากส่วนกลางอีกครั้งว่าจะให้รับซื้อได้หรือไม่ในวันพรุ่งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดก็ไม่ได้หยุดยังคงเปิดดำเนินการขายยางต่อให้พ่อค้าที่เดินทางมารับซื้อ แต่ราคาก็ต่างกันมาก พ่อค้าส่วนใหญ่จะไม่ซื้อยางชั้น 3 เพราะราคาต่างจากชั้น 4 กว่า 10 บาทต่อ กก. พ่อค้าที่มารับซื้อยางก็จะไปซื้อยางชั้น 4 มากกว่า ส่วนที่อยู่ที่ตลาดกลางยางพารายะลานั้น ก็จะเป็นยางชั้น 3 มากกว่า
“สำหรับเกษตรกรชาวสวนยางที่นำยางมาขายให้ตลาดกลางยางพารายะลานั้น เท่าที่ทราบก็จะมาจากจังหวัดตรัง สตูล สงขลา เป็นส่วนใหญ่ ส่วนยางในพื้นที่ก็มีบ้างแต่ไม่มากนัก ส่วนที่เกษตรกรชาวสวนยางจากพื้นที่อื่นเดินทางมาขายยางที่ยะลานั้น เนื่องจากที่ตลาดกลางยางพาราหาดใหญ่นั้น ต้องรอคิวนานมาก บางครั้งเป็นสัปดาห์จึงสามารถลงยางได้ เนื่องจากมีคนนำยางไปจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก ส่วนที่ยะลา วันหรือสองวันก็สามารถลงได้แล้ว เจ้าหน้าที่ของทางตลาดยางพารายะลานั้น สามารถดำเนินการลงยางได้เฉลี่ยวันละ 60 ตัน แต่บางวันมีพ่อค้านำยางมามากกว่า 100 ตัน ก็ทำให้ระยะเวลาทำงานต้องยาวออกไป ถ้ามีเกษตรกรนำยางมาขายเยอะก็ต้องคอย แต่ก็จะไม่นานเหมือนตลาดกลางยางพาราในพื้นที่อื่นๆ ที่รอคิวกันนานมาก” นายวิชิต กล่าว