ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ราคามะนาวใน จ.สงขลา เริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะกำลังย่างเข้าสู่หน้าแล้ง ทำให้ชาวสวนมะนาวมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ต้องเพิ่มการดูแลต้นมะนาวให้สมบูรณ์ เนื่องจากขณะนี้มีโรคแคงเกอร์ หรือไวรัสมะนาวระบาดในภาคใต้ อาจยืนต้นตาย
วันนี้ (9 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวสวนมะนาวใน จ.สงขลา รับทรัพย์ในช่วงหน้าแล้งเร่งเก็บผลผลิตส่งขายตลาด เนื่องจากราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกิโลกรัมละ 80 บาท หรือตกลูกละกว่า 8 บาท และช่วงหน้าแล้งปีนี้คาดว่าราคาจะสูงเกินกิโลกรัมละ 100 บาท แต่ต้องเพิ่มการดูแลต้นมะนาวให้สมบูรณ์ เนื่องจากขณะนี้มีโรคแคงเกอร์ หรือไวรัสมะนาวระบาดในภาคใต้ ทำให้ต้นตาย
โดยที่สวนมะนาวของ นายประเสริฐ ศรีระสันต์ ใน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งปลูกมะนาวพันธุ์ทูลเกล้าไว้ 150 ต้น ขณะนี้ต้องเร่งเก็บลูกมะนาวในทุกเช้าเพื่อส่งขายตลาด และร้านส้มตำใน อ.หาดใหญ่ โดยแต่ละวันสามารถเก็บมะนาวได้ 10-30 กิโลกรัม มีรายได้นับพันบาทต่อวัน และมะนาวพันธุ์ทูลเกล้ามีผลใหญ่ ให้น้ำหนักดีเฉลี่ย 9 ลูกต่อกิโลกรัม ทำให้ขายได้ราคาเป็นที่ต้องการของตลาดเพราะให้น้ำมะนาวมาก โดยคาดว่าในช่วงหน้าแล้งปีนี้ราคามะนาวน่าจะพุ่งสูงเกินกว่ากิโลกรัมละ 100 บาท เนื่องจากภัยแล้งมีแนวโน้มรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการให้ผลผลิตมะนาว
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ในช่วงหน้าแล้งแม้ว่ามะนาวจะขายได้ราคาดี แต่จะต้องดูแลต้นมะนาวให้สมบูรณ์ โดยให้น้ำจนดินชุ่มวันละ 1 ครั้ง หรือวันเว้นวัน ใช้ฟางข้าวคลุมโคนต้นเพื่อรักษาความชื้น ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ และต้องหมั่นสังเกตเรื่องโรคมะนาว เนื่องจากขณะนี้มะนาวในภาคใต้มีโรคแคงเกอร์ หรือไวรัสมะนาวระบาดจากภาวะฝนตกชุกในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งกิ่ง และลูกจะมีจุดสีน้ำตาลคล้ายๆ สนิม และจะทำให้มะนาวยืนต้นตายหากปล่อยทิ้งไว้ หากพบจะต้องตัดกิ่งที่เป็นโรคทิ้งทันที หรือใช้ยาฉีดป้องกัน
