พังงา - อุทาหรณ์สาวใหญ่พังงา มาเที่ยวน้ำตกกับครอบครัว แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับร่างได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ต้องส่งตัวเข้าห้องไอซียู แพทย์ผ่าตัดม้ามออก 2 ข้าง เจาะปอดเอาเลือดออก ญาติเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม หาคนรับผิดชอบ
จากกรณีสาวใหญ่ชาวพังงา ซึ่งเดินทางไปเที่ยวน้ำตกกับครอบครัว และถูกต้นไม้ล้มทับร่างได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายวีระพงษ์ บุญตา สามีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกต้นไม้ล้มทับ ภายหลังนำเอกสารหลักฐานการแจ้งความ พร้อมรูปถ่ายที่เกิดเหตุต้นไม้ล้มทับ เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา อ.เมือง จ.พังงา เพื่อขอความเป็นธรรม ว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เกิดเหตุต้นจันทน์ผ่าขนาดใหญ่ หักโค่นลงมาทับร่าง นางกาญจนา บุญตา บริเวณฝ่ายสงน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 โครงการชลประทานพังงา สำนักชลประทานที่ 15 กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น้ำตกเต่าทอง ม.3 ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา จนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลทับปุด ก่อนที่จะส่งตัวเข้าผ่าตัดที่โรงพยาบาลพังงา เพื่อผ่าตัดม้ามออกทั้ง 2 ข้าง ซี่โครงหัก ซึ่งต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ซึ่งการเดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมนั้นอยากให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบบริเวณน้ำตกดังกล่าว ออกมารับผิดชอบช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ เพราะทางครอบครัวลำบากต้องหาเลี้ยงคนในบ้านหลายคน จึงไม่มีค่ารักษาพยาบาล
ขณะที่ นางขวัญตา งานแข็ง น้องสาวผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ.58 ทางพี่เขย และพี่สาว ได้พาครอบครัวไปเที่ยวน้ำตกเต่าทอง ต.บ่อแสน อ.ทับปุด ในระหว่างที่เล่นน้ำตกกันอยู่ก็มีต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างตลิ่งได้ล้มลงมาทับร่าง นางกาญจนา บุญตา จนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลาหลายวัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือ หรือแสดงความรับผิดชอบ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่งออกจากห้องไอซียู ยังต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไปอีกระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม วันที่พี่สาวนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลทับปุด ได้มีเจ้าหน้าที่ชลประทาน มาถามดูอาการพร้อมบอกว่า สถานที่เกิดเหตุไม่ใช่ที่ของชลประทาน แต่เป็นที่ของอีกฝ่าย ซึ่งทางญาติก็ได้ไปถามคนที่อาศัยอยู่ที่เกิดเหตุก็บอกว่าไม่ใช่พื้นที่ของเขาเช่นกัน โดยไม่มีใครยอมรับว่าเป็นที่หน่วยงานไหนรับผิดชอบ ซึ่งต้นไม้ที่ล้มทับเป็นต้นไม้สด แต่ที่โคนต้นมีรอยไฟไหม้จากการถูกไฟเผา