คนเลี้ยงช้างตรังเร่งหาแหล่งน้ำสำรองรับภัยแล้ง หวั่นช้างหงุดหงิดจนตกมัน

ตรัง - กลุ่มคนเลี้ยงช้างจังหวัดตรัง เริ่มได้รับผลกระทบจากภัยแล้งซึ่งมาเร็ว และรุนแรงกว่าทุกปี จนต้องเร่งหาแหล่งน้ำสำรอง หรือย้ายไปรับจ้างงานตามเมืองท่องเที่ยว หวั่นช้างป่วย หงุดหงิด และตกมัน

วันนี้ (5 ก.พ.) นายสุชาติ บัวเกิด ประธานกลุ่มคนเลี้ยงช้างจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่มาเร็วกว่าทุกปีนั้น ทำให้กลุ่มคนเลี้ยงช้างทั้ง 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ห้วยยอด อ.นาโยง อ.สิเกา อ.ปะเหลียน และ อ.ย่านตาขาว ต้องนำช้างออกมาให้สัตวแพทย์สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตรัง ตรวจสุขภาพเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากหวั่นช้างขาดน้ำ ทำให้ป่วย หงุดหงิด และตกมันได้ง่าย

ซึ่งตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2557 เป็นต้นมา กลุ่มคนเลี้ยงช้างจังหวัดตรัง ต่างเร่งหาแหล่งน้ำในอำเภอใกล้เคียงกับหมู่บ้านของตนไว้ เพื่อให้ช้างได้ดื่มกิน และอาบน้ำคลายร้อน เป็นการป้องกันภาวะขาดน้ำ และทำให้ผิวเหี่ยวย่น อย่างไรก็ตาม คนเลี้ยงช้างหลายอำเภอในจังหวัดตรัง บางรายต้องแก้ปัญหาด้วยการนำช้างอพยพไปอาศัยอยู่ในที่มีแหล่งน้ำเพียงพอ หรือไปอาศัยอยู่กับทัวร์ท่องเที่ยวตามรีสอร์ตต่างๆ ซึ่งจะว่าจ้างช้างให้ไปแสดงโชว์ หรือทำการท่องเที่ยวเดินป่า เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นั่งหลังช้าง

สำหรับช้างที่ยังอาศัยอยู่ในจังหวัดตรัง เจ้าของช้างต่างสำรองแหล่งน้ำเอาไว้ใน 2-3 อำเภอ เพื่อให้เพียงพอตลอดช่วงหน้าแล้งของปีนี้ ส่วนช้างที่เหลือได้นำไปทำการท่องเที่ยวยังต่างจังหวัด ทั้งในจังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พังงา และกระบี่ เนื่องจากเจ้าของทัวร์จะรับดูแลช้าง ทั้งที่พัก น้ำ และอาหาร โดยได้ค่าจ้างเดือนละ 50,000 บาท เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาภัยแล้งซึ่งมาเร็ว และรุนแรงกว่าทุกปี ทำให้แหล่งน้ำแห้งขอดเร็วกว่าที่คิด ส่งผลให้ช้างเกิดความเครียด จนอาจตกมัน และหงุดหงิดได้ง่าย