นครปฐม - วัดธรรมปัญญารามบางม่วง ร่วมสำนักงานปศุสัตว์ฯ และสำนักงานพระพุทธศาสนานครปฐม จัดโครงการมอบกรรมสิทธิ์ และไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงพระเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 มอบกรรมสิทธิ์ไถ่ชีวิตโค-กระบือ ให้แก่เกษตรกร 20 ตัวพรุ่งนี้
นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า วัดธรรมปัญญารามบางม่วง ตำบลบางช้าง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม จัดโครงการมอบกรรมสิทธิ์ และไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงพระเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558
โดยมอบกรรมสิทธิ์ไถ่ชีวิตโค-กระบือ ให้แก่เกษตรกร จำนวน 20 ตัว โดยกำหนดให้จัดในวันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม 2558 เวลา 10.30 น. ณ วัดธรรมปัญญารามบางม่วง ตำบลบางช้าง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เป็นการช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
รวมทั้งอนุรักษ์ และเพิ่มจำนวนโค-กระบือ ในจังหวัดนครปฐม ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานโครงการ เกิดความรักความสามัคคี และดำเนินการตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ทั้งนี้ โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ เป็นโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กรมปศุสัตว์ได้รับพระราชทานให้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้มีโค-กระบือ ไว้ใช้แรงงาน และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา โค-กระบือ ภายในประเทศ มีจำนวนลดลงอย่างมาก กรมปศุสัตว์จึงได้ขยายการดำเนินงานโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อการเกษตร ตามพระราชดำริ ให้กว้างขวางขึ้น โดยได้จัดทำโครงการมอบกรรมสิทธิ์ และไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 ในทุกจังหวัดๆ ละ 60 ตัว
สำหรับการไถ่ชีวิตโคในครั้งนี้ มีผู้มีจิตศรัทธาไถ่ชีวิตโคเพศเมีย 20 ตัว สนับสนุนโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อการเกษตรกรตามพระราชดำริให้แก่เกษตรกรที่มีความประพฤติดี และปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา จำนวน 20 รายการ รายละ 1 ตัว ยืมไปเลี้ยงเพื่อการผลิตลูกตามระเบียบของโครงการฯ กล่าวคือ ผู้เลี้ยงจะต้องไม่ฆ่า หรือขายโค และเมื่อโคที่ได้รับมอบตกลูกตัวแรก อายุครบ 1 ปี 6 เดือน ให้ส่งมอบลูกโคตัวแรกคืนโครงการฯ เพื่อนำไปมอบให้เกษตรกรรายอื่นต่อไป ส่วนแม่โค และลูกโคตัวถัดไปจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเกษตรกรผู้เลี้ยง เมื่อสัญญาครบ 5 ปี
นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า วัดธรรมปัญญารามบางม่วง ตำบลบางช้าง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม จัดโครงการมอบกรรมสิทธิ์ และไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงพระเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558
โดยมอบกรรมสิทธิ์ไถ่ชีวิตโค-กระบือ ให้แก่เกษตรกร จำนวน 20 ตัว โดยกำหนดให้จัดในวันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม 2558 เวลา 10.30 น. ณ วัดธรรมปัญญารามบางม่วง ตำบลบางช้าง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เป็นการช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
รวมทั้งอนุรักษ์ และเพิ่มจำนวนโค-กระบือ ในจังหวัดนครปฐม ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานโครงการ เกิดความรักความสามัคคี และดำเนินการตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ทั้งนี้ โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ เป็นโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กรมปศุสัตว์ได้รับพระราชทานให้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้มีโค-กระบือ ไว้ใช้แรงงาน และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา โค-กระบือ ภายในประเทศ มีจำนวนลดลงอย่างมาก กรมปศุสัตว์จึงได้ขยายการดำเนินงานโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อการเกษตร ตามพระราชดำริ ให้กว้างขวางขึ้น โดยได้จัดทำโครงการมอบกรรมสิทธิ์ และไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 ในทุกจังหวัดๆ ละ 60 ตัว
สำหรับการไถ่ชีวิตโคในครั้งนี้ มีผู้มีจิตศรัทธาไถ่ชีวิตโคเพศเมีย 20 ตัว สนับสนุนโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อการเกษตรกรตามพระราชดำริให้แก่เกษตรกรที่มีความประพฤติดี และปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา จำนวน 20 รายการ รายละ 1 ตัว ยืมไปเลี้ยงเพื่อการผลิตลูกตามระเบียบของโครงการฯ กล่าวคือ ผู้เลี้ยงจะต้องไม่ฆ่า หรือขายโค และเมื่อโคที่ได้รับมอบตกลูกตัวแรก อายุครบ 1 ปี 6 เดือน ให้ส่งมอบลูกโคตัวแรกคืนโครงการฯ เพื่อนำไปมอบให้เกษตรกรรายอื่นต่อไป ส่วนแม่โค และลูกโคตัวถัดไปจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเกษตรกรผู้เลี้ยง เมื่อสัญญาครบ 5 ปี
