ศูนย์ข่าวภูเก็ต - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต จับมือสำนักงานชุมพร จัดโครงการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในภูมิภาคใต้ ภูเก็ต-ระนอง นำสื่อมวลชนทัศนศึกษาแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดระนอง ทั้งเกาะกำตก เกาะค้างคาว แหล่งดน้ำที่สวยงาม รวมทั้งเกาะพยาม แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่กำลังฮิต หวังสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยวในการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดมากขึ้น
เมื่อวันที่ 31 ม.ค.-2 ก.พ.ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานชุมพร จัดโครงการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในภูมิภาคใต้ ภูเก็ต-ระนอง ด้วยการนำสื่อมวลชนจากจังหวัดภูเก็ตไปทัศนศึกษาแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดระนอง ซึ่งประกอบด้วย เกาะกำตก เกาะญี่ปุ่น เกาะค้างคาว เป็นเกาะที่มีความสวยงาม น้ำทะเลใส ทรายขาวละเอียด แหล่งดำน้ำดูปะการังที่สวยงาม โดยทั้ง 3 เกาะยังคงความเป็นธรรมชาติยังบริสุทธิ์ นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติจริงๆ
รวมทั้งเกาะพยาม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเกาะที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นในขณะนี้ โดยที่เกาะพยามนั้นนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับชายหาดที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ สวยงาม เงียบสงบ ทั้งที่อ่าวใหญ่ และอ่าวเขาควาย โดยทั้ง 2 อ่าวนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกที่พักที่อยู่ติดริมชายหาด หรือจะเลือกที่พักที่อยู่ในชุมชนของชาวบ้านเกาะพยามที่กระจายตัวอยู่รอบๆ เกาะ โดยที่พักมีให้เลือกตั้งแต่รีสอร์ต หรูราคาคืนละหลายพันบาท หรือจะเลือกที่พักที่เป็นบังกะโล ในราคาคืนละไม่กี่ร้อยบาทก็มีให้เลือก นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาบนเกาะพยาม จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวเกาะพยาม เลือกทานอาหารที่เป็นร้านค้าของชาวบ้านเกาะพยาม เลือกซื้อของฝากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งเป็นพืชที่ขึ้นอยู่ทั่วทั้งเกาะพยาม
นอกจากนี้ ระนองยังมีแหล่งท่องเที่ยวบนบกอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นบ้านเจ้าเมืองระนอง ที่นักท่องเที่ยวจะได้ทราบถึงความเป็นมาของเมืองระนอง ที่มีมาถึง 153 ปี หรือจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่บ่อน้ำแร่ร้อน รักษะวาริน ซึ่งเป็นน้ำแร่ที่มีความร้อนระหว่าง 40-50 องศาเซลเซียส ไม่มีกลิ่นกำมะถันหินปูนเจือปน เป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถดื่ม และอาบแช่เพื่อบำบัดโรคต่างๆ ได้ หรือจะไปนั่งพักผ่อนแบบสบายในช่วงเย็นที่ภูเขาหญ้าก็ได้ นอกจากนี้ระนองยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นอาหารซีฟูด อาหารพื้นเมืองภูเก็ต ของฝากที่ทั้งเม็ดมะม่วงหิมพานต์ กะปิ อาหารทะเลแปรรูป เป็นต้น
น.ส.อโนมา วงษ์ใหญ่ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในภูมิภาคใต้ ภูเก็ต-ระนอง ในครั้งนี้ ทาง ททท.ต้องการให้เกิดการสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยวถึงการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงในภูมิภาคใต้ ซึ่งจะเป็นการประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยว และแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่ไกลจากจังหวัดภูเก็ตมากนัก เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงกัน
โดยเฉพาะจังหวัดระนอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูเก็ตมากนัก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยทางรถยนต์ได้สะดวก และใช้เวลาไม่มากนัก และที่สำคัญ จังหวัดระนองยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ยังคงความเป็นธรรมชาติ ที่เหมาะต่อนักท่องเที่ยวที่ต้องการการพักผ่อนในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ และสงบจริงๆ
ด้าน นายอภิชัย อรัญญิก ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานชุมพร กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดชุมพร และระนอง มีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงาม และน่าสนใจมากมาย ซึ่งในปีนี้ ชุมพรได้ถูกจัดเป็นจังหวัดห้ามพลาดในการเดินทางท่องเที่ยว ตามการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. ในสโลแกนที่ว่า หาดทรายสวย 400 หลี มีทั้งหาดทุ่งวัวเล่น สวนกาแฟ และได้เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับจังหวัดระนอง ซึ่งที่ผ่านมา จังหวัดระนองนั้น จะถูกมองว่าไกล แต่จริงๆ แล้วระนองไม่ไกล ตอนนี้มีเที่ยวบินบินมาระนองทุกๆ วัน และการมาท่องเที่ยวที่ระนองถือว่าคุ้มค่ามาก ระนอง มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ เช่น เกาะพยาม ที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และคนไทย เนื่องจากเกาะพยาม ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ มีที่พักที่หลากหลายให้เลือกตั้งแต่ที่พักหรูหรา ไปจนถึงที่พักราคาไม่สูงมากที่เป็นบังกะโลของชาวบ้าน มีความเป็นวิถีชุมชนอยู่มาก
สำหรับการท่องเที่ยวของทั้งชุมพร และระนองยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนักในขณะนี้ ทาง ททท.สำนักงานชุมพร ได้วางแผนที่จะประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของทั้ง 2 จังหวัดให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวชุมพรอยู่ที่ 2 ล้านคน รายได้ปีละ 6,000 ล้านบาท ขณะที่ระนอง มีนักท่องเที่ยวมาปีละ 1 ล้านคนเศษๆ รายได้ปีละประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่สมดุลต่อธรรมชาติที่มีอยู่ในขณะนี้ เพราะการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้นจะต้องคำนึงในเรื่องของการรักษาสภาพสมดุลของธรรมชาติไว้ด้วย เพราะแหล่งท่องเที่ยวของชุมพร และระนอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติทั้งสิ้น ทำให้บอบบางในการถูกทำลาย ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวจะต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติด้วย
“นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวทั้งระนอง และชุมพร 70% เป็นนักท่องเที่ยวชาวำทย ส่วนที่เหลืออีก 30% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งมีทั้งกลุ่มสแกนดิเนเวีย เยอรมนี เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เป็นต้น” นายอภิชัย กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวของชุมพร และระนองมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มต่างชาติที่นิยมเดินทางมาพักผ่อนในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ และเงียบสงบเพื่อการพักผ่อน รวมทั้งหลังการเปิด AEC เชื่อว่าการท่องเที่ยวจะเติบโตขึ้น โดยเฉพาะระนอง ซึ่งเป็นเมืองชายแดนที่นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้ 2 ประเทศ